การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี เปิดฉากขึ้นวันแรกตั้งแต่เช้าวันที่ 19 ก.ค. 65 เมื่อ 6พรรคฝ่ายค้าน ส่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน ชำแหละรัฐบาลเป็นดาบแรก บรรยากาศช่วงเช้า เหมือนจะคึกคัก แต่ปรากฏว่างานนี้ บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปรับโหมดเข้าสู่ความดุดัน เข้มข้น เรื่องไหน ประเด็นใดที่พาดพิง มาถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงตอบโต้ทันควัน เรียกว่า สวนมา ก็มีสวนกลับ
ทว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ ล้อไปกับสถานการณ์ที่เตรียมเข้าสู่โหมดของการเตรียมตัวลุยสนามเลือกตั้ง เวลานี้ ด้านหนึ่งอยู่ที่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาลอันดับ3 ที่ดูเหมือนว่านอกเหนือจาก ศึกใน ที่ยังแก้กันไม่ตก ทั้งกรณี 51 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เป็นเอกภาพ อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะ 2เสียง ทั้ง อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และ พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ชัดเจนมาโดยตลอดว่า โหวตสวนทางกับมติพรรคมาแล้วหลายครั้ง หลายคราว จนล่าสุด แกนนำพรรค อย่าง นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคยังยอมรับกับสื่อว่า ได้เสียงแค่ไหน ก็เอาแค่นั้น
แต่ที่ต้องโฟกัสความเป็นไปของพรรคประชาธิปัตย์ จากนี้ คือเสียงส.ส.ที่จะถูกดึงออกจากพรรค โดยการมาของ พรรคใหม่ ที่เตรียมเปิดหน้า โหมโรงกันอย่างหนัก เมื่อเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จบลงในวันโหวตลงมติ 23 ก.ค.นี้ต่างหาก คือโจทย์ใหญ่ สำหรับประชาธิปัตย์ จะจัดทัพอย่างไร
พรรครวมไทยสร้างชาติ ปักหมุดเตรียมจัดประชุมใหญ่ ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ วาระสำคัญคือการเปิดตัว พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พาสชั้นขึ้นมานั่ง หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกับอดีตแกนนำกปปส. รวมถึง คนของพรรคประชาธิปัตย์ บางส่วนที่เตรียมจะไหลไปรวม กันที่บ้านหลังใหม่
ขณะที่แนวรบของพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ภาคอื่นๆ ยังเป็นจุดเปราะบางที่ต้อง เฝ้าระวัง ที่จะถูก เจาะยาง ถูกพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ทั้ง พรรคภูมิใจไทย และ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมเปิดเกมบุกในพื้นที่ ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ประชาธิปัตย์ หวังที่จะ แก้มือ ทวงคืนเก้าอี้ส.ส. คืน ทวงศักดิ์ศรีคืน
อาการ รวน ที่กำลังเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากจะกลายเป็น แผลเรื้อรัง สะสมความขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจเก่า และใหม่กันมายาวนานแล้ว แต่ที่น่าหวั่นไหว คือการรอจังหวะ แตก แยกทางกันเดิน สุดแต่จะมาก หรือน้อย ก็ต้องรอลุ้นเมื่อโอกาสย้ายพรรค เปิดขึ้น !