นับถอยหลัง อีกไม่กี่อึดใจจะถึงวันเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต ในวันที่ 22 พ.ค.65 นี้ เท่ากับว่าห้วงเวลานี้คือการเข้าโค้งสุดท้าย ที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. และผู้สมัครส.ก.ทั้งที่สังกัดพรรคและในนามอิสระ จะต้องงัดทุกกลยุทธ์เพื่อชิงคะแนนกันอย่างดุเดือด
เวทีปราศรัยใหญ่ และการจัดขบวนคาราวาน ของผู้สมัครแต่ละคน แต่ละค่ายจะมีขึ้นตลอดในห้วงสัปดาห์นี้ ก่อนปิดฉากการหาเสียงอย่างเป็นทางการ คือกลยุทธ์และการชูแคมเปญที่เปิดเผย จับต้องได้ ส่วนจะได้คะแนนมากน้อยหรือไม่ อาจยังไม่ได้คำตอบสุดท้าย
เพราะในความเป็นจริงแล้ว การหาเสียง และการต่อสู้ทางการเมืองในสนามกทม.สำหรับการเลือกตั้งที่ทุกคน เฝ้ารอคอยกันมาหลายปี ย่อมต้องอาศัย เครื่องมือ และ แทคติกในการกวาดคะแนนกันไปจนถึงชั่วโมงสุดท้ายก่อนเข้าคูหา กาบัตรเลือกตั้ง กันในเช้าวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. ด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ของผู้สมัครแต่ละคน ร่วมกับ แนวร่วม ที่เปิดหน้าสนับสนุน ควบคู่ไปกับ การเดินเกมทางการเมืองในเบื้องลึก เพราะอย่าลืมว่าชัยชนะในสนามกทม. ย่อมเชื่อมโยงกับการต่อสู้การเมือง สนามใหญ่
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ของผู้สมัครแต่ละราย แต่ละค่าย ในห้วงเวลานี้ต่างได้เปรียบ เสียเปรียบในบริบทที่แตกต่างกัน !
ไม่ว่าจะเป็น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครในนามอิสระ ถูกตั้งข้อสังเกต มีข้อครหาว่า อิสระไม่จริง เพราะชัชชาติ เคยเป็นทั้งรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และยังเคยเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรคเพื่อไทย มิหนำซ้ำล่าสุดยังถูกนำไปเชื่อมโยงกับ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลคือ วิโรจน์ ลักขณาอิศร ว่ามีแนวคิดสนับสนุนการชุมนุมในกทม.ไม่ต่างกัน
แต่ถึงกระนั้น ชัชชาติ อาจอยู่ในมุมที่ได้เปรียบ ไปโดยปริยาย เมื่อปรากฎชัดเจนว่า ฝ่ายรัฐบาล ต่างส่งผู้สมัครลงไปตัดคะแนนกันเอง ไม่ว่าจะเป็น ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์
สกลธี ภัทธิยกุล จากค่ายกปปส. และโดยเฉพาะ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เองที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าได้รับแรงหนุนจากพรรคพลังประชารัฐ และจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำให้ทั้งพล.ต.อ.อัศวิน -สุชัชวีร์ และสกลธี หันมาแย่งแต้มกันเอง กลายเป็นการเปิดทางให้ชัชชาติ อาจเป็นฝ่ายได้แต้มไปอย่างเป็นกอบเป็นกำ ทว่า เหลือเวลาให้ผู้สมัครแต่ละคนได้พลิกเกมสู้ กันอีกในยกสุดท้าย ก่อนถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.65นี้ ดังนั้นต้องจับตารอดูอาวุธหนัก อาวุธเบาในช่วงทิ้งโค้งสุดท้าย !