หวุดหวิดว่า บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทำท่าว่าจะเสียท่า เสียที ขบวนการโค่นนายกฯ ก่อนถึงวันเปิดสภาผู้แทนราษฎร 22 พ.ค.65 นี้ แต่แล้วเพียงข้ามวัน สถานการณ์กลับพลิกกลับ ! เพราะทำไปทำมา งานนี้ พรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำพรรคระดับ รองหัวหน้าพรรค อย่าง ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ออกโรง เปิดตัวรับหน้าเสื่อเป็นคน เปิดดีล กับ ส.ส.จากพรรคเล็ก ในนาม กลุ่ม 16ส.ส. นัดหมายรับประทานอาหารมื้อค่ำกันมาแล้วสองคราว เพื่อส่งสัญญาณให้เห็นว่า นาทีนี้ยากที่พล.อ.ประยุทธ์ จะมั่นใจในเสียงส.ส.ฝ่ายรัฐบาลว่าจะเหนียวแน่นมากพอที่จะโหวตยกมือให้พล.อ.ประยุทธ์ ฝ่าด่าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้อย่างฉลุย นอกจากนี้ ยุทธพงศ์ ยังออกมาเปิดเผยว่าได้ต่อสายตรงไปถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย เท่ากับว่าต้องการ เขย่า ให้พล.อ.ประยุทธ์ ร่วงลงกลางสภาฯ จากเสียงของฝ่ายตัวเอง แต่แล้ว เมื่อล่าสุด สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และ มือขวา ของพล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่มือประสานในรัฐบาล นำกระเช้าดอกไม้ของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าอวยพรวันเกิดครบรอบ 44 ปี ของ พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา แน่นอนว่าในงานนี้ สุชาติ ยังได้พบกับแกนนำกลุ่ม16ส.ส. โดยเฉพาะ พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ร่ำๆจะเปิดศึกกับ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ด้วยการประกาศว่าจะซักฟอกสันติ ด้วยเรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี สุชาติ เปรียบเสมือน ขุนพลคู่ใจของทั้ง บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ดังนั้นการไปร่วมงานวันเกิดของพีระวิทย์ จึงนำสาร จากทั้งสองบิ๊ก ส่งต่อไปถึง กลุ่ม 16ส.ส. และไม่ว่าจะมีคำถามหรือการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการส่งสุชาติ ไปเคลียร์ใจหรือไม่ก็ตาม แต่น่าสนใจว่า วันนี้กระแสที่กลุ่ม16 เคยฮึ่มฮั่ม เขย่ารัฐบาล ก็เริ่มลดดีกรีลง ยิ่งเมื่อล่าสุด พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์สื่อยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัส จะไม่ไปรับประทานอาหารกับแกนนำพรรเพื่อไทยแล้ว ก่อนเข้าร่วมการประชุมครม.เมื่อเช้าวานนี้ (10 พ.ค.65) ยิ่งเท่ากับว่าเกมที่เคยแรง ก็พลันลดราลง ปัญหารอยร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ยุติลงเพียงเท่าที่ตาเห็น ไม่ว่าจะเป็นในรายของพิเชษฐ ที่ตัวอยู่กับพรรค แต่กลับไปเคลื่อนไหวกับ พรรคฝ่ายค้าน ชนิดที่ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกขับออก หรือเสียมารยาททางการเมือง เพราะอีกไม่นาน เมื่อใกล้ถึงวาระการประชุมสภาฯ นัดสำคัญ ๆตามมา กระชั้นชิดเข้ามามากเท่าใด การเคลื่อนไหวในลักษณะ ท้าทาย และกดดัน จะยิ่งทวีขึ้น อย่างไม่ต้องสงสัย แต่วันนี้ นาทีนี้ ที่แน่ๆ ชบวนการล้มนายกฯ จำต้องเบรกไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้น สถานการณ์อาจยิ่งบานปลาย กระทบกับ มือมืด ที่อยู่ข้างหลัง ถูกดึงให้ออกมาสู่ ที่แจ้ง !