ทีมข่าวคิดลึก
จะด้วยเพราะเป็นคุณลักษณะของ "นักการเมือง" ที่ "จมูกไว" หรือจะด้วยเพราะ "กระแส"ทวีความแรงมากขึ้นทุกขณะหรือไม่ก็ตาม แต่วันนี้บรรดานักการเมือง ที่พร้อมจะแปรไปสู่"นักเลือกตั้ง" เมื่อถึงวันที่สนามเลือกตั้งเปิดขึ้นในราวปลายปี 2560 จึงพากันเคลื่อนไหว เตรียมจัดทัพรับศึกเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก
โดยเฉพาะพรรคการเมืองหน้าใหม่ พรรคเล็ก ที่ตั้งเป้าขอ "แจ้งเกิด"ในสนามเลือกตั้งรอบหน้า ในท่ามกลางที่ "2 พรรคใหญ่" กำลังเจอกับมรสุมอย่างหนัก เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายเข้าร่วมขบวนกับ "รัฐบาลใหม่" ที่จะมาจากการเลือกตั้งครั้งหน้า
และที่น่าสนใจไปกว่านั้น เวลานี้มีกระแสว่า "นายกฯ คนที่ 30" นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั่นเอง !
ยิ่งคะแนนนิยมที่ประชาชนมีต่อพล.อ.ประยุทธ์ มากเท่าใด ยิ่งทำให้เกิด"สัญญาณแรงชัด" มากขึ้นเท่านั้นเพราะไม่ว่าก่อนหน้านี้ ตัว พล.อ.ประยุทธ์ เองจะตอบรับหรือปฏิเสธ เมื่อถูกสื่อซักถามถึงความเป็นไปได้ว่าจะเข้ามาเล่นการเมืองอีกหรือไม่ก็ตาม
แต่เมื่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกำลังสะท้อนว่าการก้าวเข้าสู่ปีที่3 ของการบริหารประเทศในนามรัฐบาลโดยมี คสช.ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย สกัดทุกความเคลื่อนไหวจากฝ่ายใดก็ตามที่จะทำให้เกิดเป็นอุปสรรคส่งผลกระทบต่อการทำงาน ของรัฐบาลตลอดจน "แม่น้ำ" ทุกสาย อันถือเป็นกลไกสำคัญในการเดินหน้าตามโรดแมป
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างคึกคักของบรรดาอดีตนักการเมืองมีมาพักใหญ่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ คสช.
เปิดไฟเขียว ให้ทุกพรรคจัดกิจกรรมทางการเมืองได้แต่อย่างใด เพราะในความเป็นจริงแล้วบรรดาอดีตแกนนำพรรคการเมืองได้พากันนัดหมาย พบปะสังสรรค์ไปจนถึงหารือกันถึง "อนาคต" ทางการเมืองกันมาอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งเมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้เปิดทางให้กับพรรคการเมืองหน้าใหม่ได้มีโอกาสมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่าได้มีอดีตแกนนำที่เคยสังกัดพรรคต่างๆ พากันจับมือเตรียมสร้าง"พันธมิตรการเมือง" กันเอาไว้อย่างหลวมๆ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้ก้าวขึ้นสู่เก้าอี้นายกฯ คนที่ 30
มีการประเมินสถานการณ์จากบรรดาอดีตนักการเมือง ที่เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งในปี2560 ซึ่งเชื่อว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ เองจะมีเรตติ้งคะแนนนิยมหนาแน่น ท่วมท้นแต่ย่อมไม่ได้หมายความว่าหนทางข้างหน้าไปจนถึงวันสิ้นสุดโรดแมป ทุกอย่างจะ"เป็นใจ" จนทำให้ คสช.เองไม่ต้องเตรียมการรับมือหรือปรับแผน อย่างใดอย่างหนึ่ง
ล่าสุด นักเลือกตั้งหลายคนเชื่อว่าการเลือกตั้งอาจมีขึ้นเร็วกว่าที่กางปฏิทินกันเอาไว้ที่ปลายปี 2560 เนื่องจากคสช.ประเมินแล้วว่าการยื้อเพื่ออยู่นานไปในท่ามกลางปัญหาใหญ่เรื่องปากท้องของประชาชน ที่ทำท่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นนั้น อาจส่งผลกระทบต่อ "เรือแป๊ะ" ทั้งลำ
อีกทั้งเมื่อกระแสความขัดแย้งทางการเมืองมีสูงขึ้นเมื่อใกล้วันที่"คดีความ" อันมี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"อดีตนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะ"จำเลย" ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทั้งในทางอาญาและประเด็นที่ว่าด้วยการชดใช้ค่าเสียหาย ที่เกิดขึ้นกำลังงวดเข้ามามากเท่าใด ปฏิกิริยาตอบโต้จากพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น แม้คสช.จะพยายามล็อกทุกความเคลื่อนไหวในภาคสนามแล้วก็ตาม
ยิ่งเมื่อสองพรรคการเมืองใหญ่ทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทย ต่างอยู่ในสภาพการณ์ที่แทบเอาตัวไม่รอด จึงส่งผลทำให้ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์เสมือนเข้าไปจองเก้าอี้ที่นั่งของผู้นำรัฐบาลคนใหม่ ในขณะที่ฝ่ายการเมืองยังตั้งตัวกันไม่ติด !