แสงไทย เค้าภูไทย เตรียมตัวรับน้ำมันแพง เหตุผวารัสเซียบุกยูเครน สมทบโอเปกลดกำลังผลิต เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นใช้พลังงานเพิ่ม แนวโน้มราคา 120 ดอลลาร์บาร์เรลจาก 90 ต้นๆ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐประเมินว่า รัสเซียจะบุกยูเครนในวันพุธนี้หรืออย่างช้าสุดสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้ส่งกำลังประชิดชายแดนราว 130,000 คน พร้อมสรรพยุทโธปกรณ์ แม้จะมีการเจรจากันผ่านโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แต่ก็หาข้อยุติไม่ได้ ปูตินขอให้สหรัฐฯถอนขีปนาวุธออกจากยูเครน เพราะมันจ่อคอหอยรัสเซีย แต่ไบเดนก็เกี่ยงว่าถ้ารัสเซียไม่บุกยูเครน ขีปนาวุธพิสัยไกลเหล่านี้ก็จะไม่เป็นอันตรายใคร ดังที่มันเป็นอยู่ ส่วนที่ตั้งฐานยิงในยูเครนก็ด้วยเหตุว่า ยูเครนเป็นชาติในความคุ้มครองขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ NATO ที่ยูเครนเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2017 ด้วยพันธสัญญา สหรัฐที่มีบทขบาทสำคัญที่สุดในนาโต ขู่กลับปูตินไปว่า สหรัฐจะส่งกำลังเรือนแสนเข้ายูเครนหากรัสเซียบุก เช่นเดียวกับสมาชิกประชาคมยุโรปที่พร้อมจะปฏิบัติตามพันธะสัญญานาโต้เพื่อปกป้องยูเครน ถ้าเกิดสถานการณ์เช่นนั้นจริง ก็เท่ากับเป็นสงครามโลกขนาดย่อม ความหวาดหวั่นว่าจะเกิดสงคราม ทำให้ปัจจัยเศรษฐกิจทั่วโลกสะท้านไหว ราคาน้ำมันดิบพุ่งพรวด ทั้งด้วยความกังวลสงคราม ทั้งด้วยภาวะโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มโอเปกจำกัดกำลังผลิต เหตุน้ำมันส่วนเกินมีมาก จนราคาน้ำมันดิบช่วงโควิดระบาดรุนแรงตกดิ่งมาก และหากเกิดสงคราม ปริมาณน้ำมันดิบจากรัสเซียที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกก็จะเกิดปัญหาการขนส่ง ทั้งน้ำมันและทั้งก๊าซธรรมชาติ จากราคา 90 ดอลลาร์ต้นๆ ขณะนี้ ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 8 ปี ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนคาดกันว่า มันจะข้ามเส้น 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ในไม่ช้าหรือทันทีที่รัสเซียบุกยูเครน นักวิเคราะห์ราคาน้ำมันมองว่า หากเกิดสงครามยูเครน ราคาน้ำมันดิบจะขึ้นไปถึง 120 ดอลลาร์/บาร์เรล จากขณะนี้ 94-95 ดอลลาร์ โดยล่าสุดน้ำมันดิบ West Texas Intermediate อยู่ที่ 94.65 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent แหล่งทะเลเหนือ(อังกฤษ)อยู่ที่ 95.65 ดอลลาร์/บาร์เรล Opec Basket 92.67 ดอลลาร์/บาเร็ล อัตราขยับราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 4% ผลกระทบจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น นั่นหมายถึงเงินเฟ้อสูงขึ้น สหรัฐฯกำลังเผชิญหน้าเงินเฟ้อรุนแรงโดยเดือนมกราคมที่ผ่านไป ดัชนีราคาผู้บริโภคขึ้นไปถึง 7.3% เป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี แม้ขณะนี้เงินเฟ้อจะลดลง แต่หากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นไปถึง 120 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็ไม่ต้องคาดการณ์เลยว่า อัตราเงินเฟ้อจะขึ้นไปจรด 10% หรือไม่ เพราะส่อแววว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 25% วิธีแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่ชะงัดที่สุดคือการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ธนาคารกลาง(Fed) พยายามตรึงไว้ในอัตราต่ำ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตอนนี้ได้แต่หวังกันว่า จะสามารถยับยั้งไม่ให้รัสเซียบุกยูเครน ผ่านการเจรจาทางการทูตของนายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนี ที่กำลังเดินทางไปยูเครน จากนั้นวันถัดไปจะไปรัสเซีย หากสำเร็จ โลกก็จะพ้นภัยสงคราม เขาก็จะกลายเป็นวีรบุรุษ แต่ถ้าไม่สำเร็จ ก็ข้างใครข้างมัน สหรัฐฯ-ยุโรป vs รัสเซีย