การประชุมสหประชาชาติรอบนี้ เรื่องสำคัญที่สุดเห็นจะเป็นเรื่อง "วิกฤติผู้อพยพ" ประมาณการกันว่าทั่วโลกมีผู้อพยพประมาณ 65 ล้านคน ปัญหานี้มีทุกทวีป แต่เฉพาะหน้านี้ฝรั่งยุโรปกำลังเผชิญกับคลื่นผู้อพยพร้ายแรงที่สุด การประชุมสหประชาชาติรอบนี้มุ่งหาทางแก้ปัญหาที่ต้นตอและเน้นการหาข้อตกลงกันระหว่างบรรดาผู้นำจากทั่วโลก ว่าจะแบ่งความรับผิดชอบกันอย่างไรบ้างต่อปัญหาผู้อพยพย้ายถิ่นและผู้ลี้ภัยสงคราม ในช่วงสองปีต่อจากนี้ ซึ่งคงไม่เกิดประสิทธิผลอะไรนัก ตราบใดที่สงครามในตะวันออกกลางยังไม่ยุติ โดยเฉพาะสงครามกลางเมืองในซีเรีย คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติจัดการประชุมระดับสูงในวันพุธ เพื่อเน้นปัญหาในซีเรียเป็นหลัก แต่ก็คงไม่เกิดประสิทธิผลอะไรนักเช่นกัน นาย Richard Gowan แห่ง Columbia University กล่าวว่า ความเป็นจริงคือรัฐบาลที่มีบทบาทในการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับซีเรีย คือรัฐบาลสหรัฐฯ รัสเซีย และอิหร่าน ไม่ใช่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถ้าจะให้กล่าวความจริงกันแล้ว ผู้คนทั่วไปมองว่าสหประชาชาติไม่มีความสามารถที่จะยับยั้งสงครามได้ ปัญหาของสหประชาชาติเป็นปัญหาโลกแตก แก้ไม่ได้ เมื่อหวนมองในตลอดเจ็ดสิบปี แม้สหประชาชาติจะพยายามทำการปฏิรูป 3 ครั้ง แต่เป็นเพียงการเพิ่มสมาชิกในองค์กรต่างๆเช่น คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมหรือคณะมนตรีความมั่นคงเท่านั้น และนับตั้งแต่ช่วงปี 90 สหประชาชาติก็มีความประสงค์ที่จะทำการปฏิรูปองค์กรแบบบูรณาการตาม 3 กลุ่มปัญหา คือ การพัฒนาและการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษ การปฏิรูปกลไกขององค์การและคณะเลขาธิการและรูปแบบการปฏิบัติ แต่ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา การปฏิรูปดังกล่าวแทบจะไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดเพราะปัจจัยทางนิตินัยและสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปดังกล่าว นั่นคือ ข้อกำหนดต่างๆ ในกฎบัตรสหประชาชาติ เช่นระเบียบการเกี่ยวกับสมาชิกถาวรและสิทธิวีโต้ เพราะแม้หลายประเทศสมาชิกเห็นพ้องกันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำการปฏิรูปแต่ทุกความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคือ ถ้าหาก 5 ประเทศนี้ยังพอใจต่อระเบียบการปัจจุบันและเห็นว่าระเบียบการนี้ไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อผลประโยชน์ 5 ประเทศสมาชิกถาวรก็จะไม่ให้ความสนใจมาตรการการปฏิรูปและสามารถคว่ำบาตรมติทุกฉบับ นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาการแข่งขันระหว่างภูมิภาค ซึ่งสามารถเห็นได้จากการโต้เถียงโดยไม่ยอมลดราวาศอกด้านผลประโยชน์ระหว่างประเทศต่างๆ เป็นอันว่ายังไม่สามารถมองเห็นผลสำเร็จจากการปฏิรูปแถมยังแสดงออกถึงความแตกแยกระหว่างประเทศสมาชิกและกลุ่มประเทศในองค์การสหประชาชาติ