เมื่อมีรัฐประหารเพื่อกู้วิกฤติการเมืองมาแล้ว บ้านเมืองเริ่มเข้ารูปเข้ารอย แม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนปรับปรุงความคิดจิตสำนึกของคนไทยได้ แม่น้ำหลายสายในจำนวนห้าสายที่สร้างขึ้นมามีเชื้อน้ำเน่าปะปนอยู่ น้ำก็เลยส่งกลิ่นไม่ค่อยดี ฯลฯ แต่จะอย่างไรก็ตาม บ้านเมืองก็ควรก้าวหน้าไปตามโรดแมปที่คณะรัฐประหารวางไว้
ตอนนี้ไม่มีวิกฤติ ไม่จำเป็นต้องหาคณะกรรมการกู้วิกฤติชาติอะไรอีก เพราะเดี๋ยวจะมีคณะผู้ก่อการกู้วิกฤติแห่งวิกฤติ...เพื่อแก้วิกฤติ ? อะไร ๆ ตามมาอีกมากจนเต็มท้องถนนกันอีกรอบ
คนไทยโปรดหันมาปรับปรุงแก้ไขตัวเองก่อนเถิด ไม่ต้องรักชาติเหลือเกินจนออกหน้าออกตา รักตัวเองก่อนโดยปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ลดละเลิกความคิดที่มิชอบ ถ้าทำได้บ้านเมืองจะโปร่งใส
“การปฏิรูปการเมือง” ที่แท้จริง ก็อยู่ที่จุดนี้ คือการทำให้พลเมืองไทย อยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้ ไม่ตีกัน ไม่ฉ้อโกง ฯ ปัญหายักษ์ใหญ่สามด้านของเมืองไทย ยังคงเป็นปัญหาเดิมคือ 1.ด้านเศรษฐกิจที่มีวิกฤติทั่วโลกอยู่แล้ว 2.ด้านการเมืองที่ยังไม่ก้าวผ่านปัญหาเก่า ดังที่จะมีคณะกรรมการกู้วิกฤติชาติอะไรนั่นกันอีก 3.ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหายืดเยื้อที่ประเทศไทยจะต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรไปมากโดยมิได้เกิดผลทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม แค่สามปัญหานี้ รัฐบาลก็แย่แล้ว
ประเทศไทยควรจัดการกับปัญหาใหญ่ทั้งสามด้านนี้อย่างไร ?
ตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือ ต้องปฏิรูป คนส่วนใหญ่ต้องการการปฏิรูป แต่ก็ไม่รู้ว่าการปฏิรูปที่ถูกต้องเหมาะสมทำอย่างไร ข่าวสารก็มีแต่กระแสปฏิรูปการเมือง จะแก้กฎหมายการเลือกตั้งกันอย่างไร ฯลฯ มวลชนถูกปั่นหัวให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัว และสังคมก็ชักจะลืมเลือนเรื่องการปฏิรูปด้านอื่น ๆ เพราะกระแสปั่นข่าวการเมือง
งานปฏิรูปเศรษฐกิจนั้น เราอยากสรุปว่าไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย ทฤษฎีความเชื่อของอีลิท-ผู้นำทางด้านเศรษฐกิจก็ยังคงเดินไปตามเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก “ทุนนิยมเสรีโลกาภิวัตน์” ประเทศทุนนิยมศูนย์กลาง เขาเดินไปตามทางนั้นก่อนหน้าเรา แล้วก็พบวิกฤติ แต่ไทยก็ยังจะเดินตามรอยนั้นไปอีกเปลี่ยนเป็นให้ความสำคัญกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ทางเลือกแนวอื่น ๆ ให้มากขึ้นเถิด
ประเทศไทยแม้โดยภาพลักษณ์จะเชิดชู “เศรษฐกิจพอเพียง” แต่จริง ๆ แล้วทั้งภาครัฐและภาคเอกชนไม่ได้ปฏิบัติอย่างแท้จริง ส่วนเศรษฐศาสตร์ทางเลือกสายอื่น ๆ ก็ยังมีสัดส่วนน้อยนิดน่าเสียดายโอกาสที่ไทยควรเร่งพัฒนาขยายสัดส่วนการใช้เศรษฐศาสตร์ทางเลือก ถ้าเราใช้จังหวะนี้ทุ่มเทงบประมาณสนับสนุนเศรษฐศาสตร์ทางเลือกให้เข้มแข็ง ไทยจะมีโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นตัวของตัวเองได้แท้จริง ไม่ต้องเป็นทาสทุนต่างประเทศอีกต่อไป อย่าคิดว่าเราจะทำไม่ได้ ประเทศญี่ปุ่นใช้เวลาห้าสิบปี ปฏิรูปประเทศให้เจริญทัดเทียมฝรั่งได้ ประเทศจีนใช้เวลาห้าสิบปี สร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งจนถึงระดับเป็นแนวหน้าของโลกได้แล้ว ถ้าไทยเราร่วมมือกันปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปทุกด้าน เราจะมีอนาคตที่งดงามให้ลูกหลานในทางตรงข้าม ถ้าไทยเราไม่ปรับตัว ลูกหลานไทยจะลำบากมาก