รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
คนไทยนั้นมีความผูกพันกับเทศกาลปีใหม่ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือปีใหม่สากลมายาวนาน ยิ่งคนที่ ห่างบ้านไปไกลก็จะเดินทางกลับบ้านรวมญาติ พบปะเพื่อนฝูง พร้อมชวนกันเที่ยว กิน และดื่ม ซื้อของกลับบ้านแบบทุ่มไม่อั้น ให้เงินพ่อแม่หรือญาติ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสุขร่วมกันที่นานทีปีหนจะพบกันครบสักที เหล่านี้สะท้อนถึงพฤติกรรมของคนไทยที่มีนิสัยรักสนุก ชอบสังสรรค์เฮฮา ชอบเที่ยว ชอบกิน และชอบดื่ม แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้กลายเป็นตัวหลักสกัดพฤติกรรม “ส่งความสุข” ของคนไทยในช่วงปีใหม่ซึ่งมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ช่วง 2-3 วันมานี้ จะเห็นว่าผู้นำของประเทศต่าง ๆ พากันวิตกกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอนที่มีจำนวนสูงขึ้น ทำให้มีการประกาศยกเลิกการเฉลิมฉลองเทศกาลวันคริสต์มาสและเทศกาลวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ 2565 เพราะไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน อาทิ เมืองริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ฯลฯ และยังมีอีกหลายประเทศในยุโรปประกาศยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวดขึ้น
เช่นเดียวกันด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ยกเลิกกิจกรรมวันปีใหม่ โดยนายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกให้เหตุผลว่า "การเฉลิมฉลองล่าช้า คงดีกว่าการเฉลิมฉลองในตอนนี้แล้วต้องเสียใจในภายหลัง" และยังต้องมีการเพิ่มความพยายามอีกเท่าตัวเพื่อยุติการระบาดใหญ่ครั้งใหม่ ซึ่งการระบาดครั้งใหญ่นี้อาจจบสิ้นลงในปี 2565 เมื่อทุกประเทศฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ร้อยละ 70 ภายในกลางปีหน้า
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่ติดง่าย ตายยาก แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ารับรองเต็มร้อย พบว่าขณะนี้มีการระบาดลุกลามไปถึง 89 ประเทศ ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อแตะกว่า 6 พันคน และคาดว่าสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อจะหนักหน่วงยิ่งขึ้นหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังจะเห็นได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักร 8-9 หมื่นรายต่อวัน ฝรั่งเศส 5-6 หมื่นรายต่อวัน นอกจากนี้ที่เยอรมนีและสหรัฐอเมริกาก็มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง แม้แต่ในไทยตัวเลขการติดเชื้อก็ยังแกว่งขึ้น ๆ ลง ๆ และในจำนวนผู้ติดเชื้อที่ดูลดลงนี้แต่ก็ยังสูงอยู่ดี
โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนถูกตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ด้านประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกแล้วเช่นกันเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งภาพรวมของประเทศไทยในขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว รวมทั้งสิ้น 63 ราย
หวังว่าการมาถึงของ ‘โอไมครอน’ ในไทยที่เริ่มระบาดมากขึ้น ๆ จะช่วยเตือนและย้ำคนไทยให้ระมัดระวังกันสุดตัวในเรื่อง “เที่ยว กิน และดื่ม” รวมถึงการไปทำบุญที่วัดหรือตามจุดต่าง ๆ ตลอดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้ด้วย ความไม่ประมาท เพราะทุกคนคงไม่อยากเจอ “สภาพสะพรึง” แบบหลังปีใหม่ไทยหรือเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาอีกแน่ ๆ ที่ต่างก็ “เจ็บ จุก จน ทรุด” ลากยาวมาถึงตอนนี้และปีหน้า
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นย่อมส่งผลกระทบกับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้าย ปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศไทย ประชาชนบางส่วนอาจกลัวและวิตกในการเข้าร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ภาครัฐก็หวังใช้โอกาสโค้งสุดท้ายช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เปิดประเทศกระตุ้นให้ประชาชนออกมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย “กินและใช้” ให้มาก เพื่อให้ธุรกิจกระเพื่อมและเม็ดเงินสะพัดขึ้นบ้าง
ดังเช่นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมจัดกิจกรรมส่งท้าย ปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 หวังกระตุ้นให้มีการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand Countdown 2022-Amazing New Chapters” โดยย้ำฉลองปีใหม่ปลอดภัย New Normal ตามมาตรการสาธารณสุข
เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนชาวไทยในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่นี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จึงสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อ “คนไทย” กับปีใหม่ในยุคโควิด-19 ใน 7 ประเด็นหลัก ได้แก่
1) การเข้าร่วมงานเคานด์ดาวน์ตามสถานที่จัดงานต่าง ๆ
2) การทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่
3) อาหารเมนูพิเศษในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่
4) การดูแลเด็กในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่
5) การทำกิจกรรมกับผู้สูงอายุในครอบครัว
6) ค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ และ
7) ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ท้ายนี้หวังว่าเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ 2565 จะนำมาซึ่งความสุข ความหวัง และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทยทุกคนให้ “ปลอดโควิด-19” พร้อมรับความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจปีหน้าฟ้าใหม่กันครับ...