เสียงเตือนจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ หลายต่อหลายคน ดูเหมือนว่าจะแสดงความกังวลในทิศทางที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ว่าศึกเลือกตั้งซ่อมที่กำลังจะเกิดขึ้น ใน2 เขตเลือกตั้งที่ภาคใต้ ในเร็วๆนี้นั้น พรรคพลังประชารัฐจะเลือก ไว้ไมตรี ด้วยการเปิดทางให้ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะ เจ้าถิ่นลงคนลงสมัคร โดยไม่ส่งใครลงไปแข่งหรือไม่ ? "เทพไท เสนพงศ์" อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคเพื่อส่งเสียงเตือนไปยัง เพื่อนพ้องชาวประชาธิปัตย์ด้วยกันเอง อย่างตรงไปตรงมา ว่าด้วยเรื่อง "มารยาททางการเมือง" โดยระบุว่า "การเลือกตั้งซ่อม ทั้งที่เขต 1 ชุมพร และ เขต 6 สงขลา เพื่อความความไม่ประมาท พวกเราชาวพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเตรียมพร้อมสู้ศึกในครั้งนี้อย่างเต็มที่ อย่าหวังว่าจะมีพรรคการเมืองใดหลีกทางให้ เพราะการเมืองยุคนี้ ไม่มีเรื่องมารยาททางการเมืองเหมือนสมัยก่อน ที่พรรคเจ้าของที่นั่งเดิม จะได้สิทธิ์การส่งผู้สมัครเพื่อรักษาที่นั่งเดิมไว้ โดยพรรคร่วม ไม่ว่าที่นั่งเดิมจะอยู่ในซีกฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พรรคร่วมของแต่ละฝ่ายจะหลีกทางให้ ไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ส่วนใหญ่จะสู้กันระหว่างตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อวัดคะแนนนิยมกัน ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราชที่ผ่านมา ก็มีบทเรียนให้เห็นแล้วว่า มีการอ้างหลักประชาธิปไตย อยู่เหนือมารยาททางการเมืองมาแล้ว อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย สู้ต่อไปนะพวกเราชาวประชาธิปัตย์ ลูกพระแม่ธรณีบีบมวยผม" ปัญหาระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ ที่อาจเกิดเป็นประเด็นรอบใหม่นั้นสืบเนื่องมาจาก "ถาวร เสนเนียม" พ้นจากส.ส.สงขลา และ ชุมพล จุลใส พ้นจากส.ส.ชุมพร ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ขณะที่พรรคพลังประชารัฐเอง ล่าสุดก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 เขตนี้หรือไม่ เพราะยังไม่มีการ "เคาะ" ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนว่า ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ เองก็ไม่เคย "ถอย" ให้กับประชาธิปัตย์ ในทุกการเลือกตั้งซ่อมส.ส.จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เรื่อง "มารยาทการเมือง" ตามมาหลายครั้งหลายครา และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีที่ว่างด้วยกันถึง 2ที่นั่งส.ส. ทั้งที่ชุมพรและสงขลา จึงทำให้พรรคพลังประชารัฐ ถูกจับตามองอย่างหนัก ว่าจะเห็นแก่ความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน หรือจะเลือกสะสมแต้มส.ส.เข้าพรรค เพื่อเป็นการ "วัดกำลัง" วัดพลังฝีมือของ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" เลขาธิการพรรค ชิมลางก่อนวันเปิดสนามใหญ่