ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....และ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ..... ผ่านวาระแรกของรัฐสภาไปแล้ว รอให้กรรมาธิการอีก 15 วัน คงรู้ผลว่าจะเป็นการศึกษายุคดิจิทัลและสามารถแก้ปัญหาของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ได้หรือไม่
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ได้ยกร่างใหม่เป็นการปฏิรูปการศึกษาอีกครั้งหนึ่งในรอบ 22 ปี ที่เราใช้ พ.ร.บ.การศึกษา 2542 มาแล้ว 22 ปี พบว่าไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ดีแต่ว่าอุดมศึกษาแยกออกไปเสียก่อนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างคล่องตัว
จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 ได้เน้นโครงสร้างเป็นหลัก นำความก้าวหน้าของข้าราชการมีตำแหน่งสูงขึ้น แต่คุณภาพการศึกษาลดต่ำลงเป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วไป ฉบับใหม่นี้จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการสร้างชาติได้จริงหรือไม่ ดูแล้ว พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ..... ที่แก้ไขและปรับ สำนักงานการศึกษาบอกโรงเรียนให้สามารถเป็น พ.ร.บ.อีกกรมหนึ่ง ที่จะยังคงสร้างความก้าวหน้าให้ข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาของ กศน. อีกเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าเนื้อหาจะสามารถแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสามารถสร้างประสิทธิภาพให้คนกลุ่มนี้ได้อย่างไร คงต้องรอดู โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปี จึงจะทราบผล
การพัฒนาเกษตรกรของประเทศให้มีความยั่งยืนต้องรอให้ยุทธศาสตร์ข้าวในปี 2570 บรรลุผลเสียก่อน ขึ้นอยู่กับหน่วยงานปฏิบัติที่จะมีเป้าหมายลดต้นทุนการผลิตเหลือ 3,000 บาท/ไร่ จากเดิม 6,000 บาท/ไร่ ผลผลิตจาก 470 กก./ไร่ เป็น 600 กก./ไร่ และได้ข้าวพันธ์ใหม่อันเกิดจากการวิจัยเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 3 สายพันธ์ุ หากทำได้อย่างนี้ ความยั่งยืนของเกษตรกรชาวไร่ชาวนาจะยั่งยืนและอยู่ได้ด้วยอาชีพตนเองไม่ต้องเอามาจำนำหรือใช้เงินประกันราคาทุกปี ซึ่งจะเป็นภาระของรัฐบาล ซึ่งควรจะมียุทธศาสตร์พืชหลักให้ครบว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างไร ถือว่าเป็นผลงานของรัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้นำเรื่องประกันราคามาช่วยเกษตรกรจนได้ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ถือเป็นผลงานของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่พุ่งทะยานเทียบชั้นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้พอควร
ขอแสดงความอาลัยกับครอบครัว ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร ที่ได้สูญเสียท่านไป ถือว่าท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์ระดับชาติที่ให้ข้อเสนอดีๆแก่รัฐบาลที่ผ่านมา โดนเฉพาะโครงการจำนำข้าวที่ท่านไม่เห็นด้วย จะทำให้ตลาดข้าวสูญเสียความสมดุลและจะมีการโกงกินกันเป็นอย่างมาก ซึ่งท่านได้วิเคราะห์อย่างถูกต้อง เพราะรัฐขาดทุนไปถึงอย่างน้อย 5 แสนล้านบาท เป็นภาระของรัฐบาลชุดปัจจุบันอีกส่วนหนึ่ง
น่าเสียดายกับคนมักง่ายที่จ้องการโกงการซื้อขายยางพาราของไทยที่ส่งไป USA ถึง 40% จะได้รับผลการเก็บภาษีเพิ่มจากการที่รัฐบาลอุดหนุนหรือ A.D. และขาดความเชื่อถือในระดับนานาชาติจากถุงมือยางมือสองที่ส่งไปให้ลูกค้าใน USA จนดังไปทั่วโลก
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ต้องรีบเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคใหม่ๆที่เกิดขึ้น และสร้างยุทธศาสตร์ในสินค้าไทยให้สามารถเป็นที่ยอมรับต่อไปได้เพียงใดคงต้องเอาใจช่วยรัฐบาลในเรื่องนี้