แม้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะย้ำอยู่หลายครั้งว่ารัฐบาลจะอยู่จนครบเทอม 4ปี เรื่องลาออกหรือยุบสภาฯ ก่อนปี 2566 นั้นแทบไม่ได้อยู่ในความคิดก็ตาม แต่สำหรับ "นักการเมือง" แล้ว ดูเหมือนว่าไม่มีใคร "วางใจ" รอจนได้ยินสัญญาณระฆังเลือกตั้ง ได้แต่อย่างใด หากเป็นเช่นนั้นก็คงล่าช้า เกินการณ์ ! ความเคลื่อนไหวทางการทั้งจากพรรคใหญ่ไปจนถึงพรรคเล็กเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีรายงานว่า พรรคใหญ่ อย่าง เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ก้าวไกล รวมถึง ประชาธิปัตย์ เองต่างจัดทัพเพื่อรอบรับการเลือกตั้งทั้งรูปแบบ "บัตร2ใบ" และ "บัตรใบเดียว" เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกสถานการณ์ นอกเหนือไปจากการปรับทัพของแต่ละพรรคแล้ว ยังน่าสนใจว่า นักเลือกตั้ง จากหลายพรรคยังหมายตาพื้นที่ฐานเสียงที่มี "บ้านใหญ่" พรรคใหญ่เป็นเจ้าของ กันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นการประกาศของ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ประกาศนำพรรคเข้าไปปักธงในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ถิ่นเดิมของ พรรคชาติไทยพัฒนา บนความมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีใครเป็นเจ้าของพื้นที่เลือกตั้ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไป ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ที่วันนี้ได้กลายเป็น "โอกาส" ที่เปิดกว้างให้ "พรรคหน้าใหม่" เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อ ปี2562 มีพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชาติ เข้าไปปักธง จนสำเร็จ ส่งผลให้ เก้าอี้ส.ส.ทั้งหมดในพื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งนั้น 50 เขต ถูกแบ่งออกไป ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคใหญ่ และหวังที่จะกวาดที่นั่งส.ส.ภาคใต้ ให้มากที่สุด ในการเลือกตั้งรอบนี้ มีอันต้อง "สะดุด" เมื่อ "ผู้การฯสุชาติ" พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ประยุทธ์ ทตัดสินใจย้ายไปสังกัดพรรคกล้า ที่มี "กรณ์ จาติกวณิช" เป็นหัวหน้าพรรค แถมยังเคยมีโลโก้ พรรคประชาธิปัตย์ ติดตัวในฐานะ "อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" มาก่อน ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ เองแม้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะจัดวาง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" เลขาฯพรรค ลงไปดูแลคุมเชิง แต่ปัญหาที่ลึกลงไปกว่านั้น กลับอยู่ที่ส.ส.ใต้ กว่า 10 เสียง ที่มีอยู่ใช่ว่าจะ "รับสัญญาณ" จากร.อ.ธรรมนัส ไปเสียทั้งหมด ทางด้านพรรคประชาธิปัตย์เอง มารอบนี้นอกจากจะต้องสู้กับ "พรรคต่างถิ่น" แล้วยังดูเหมือนว่า พรรคต้องหันมารับมือกับ คนกันเองŽ ในคราวเดียวกัน เพราะการที่พรรคกล้า ได้ตัวผู้การฯสุชาติ ไปคุมทัพในภาคใต้นั้นใช่ว่าจะไปแบบตัวเปล่า แต่ผู้การฯสุชาติ เองก็มีฐานเสียง และทำพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง กว่าศึกเลือกตั้งจะระเบิดขึ้น โอกาสย่อมเป็น "ทุกค่าย" ทุกพรรค ให้ได้ลุ้น กันถ้วนหน้า !