ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] สภาพัฒน์ ได้ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เพื่อทำประชาพิจารณ์ 16 กลุ่มทั่วประเทศ แล้วจะนำไปปรับแก้นำไปใช้เป็นแนวทางการปฏิรูปประเทศระยะที่2 ปี 2566-2570 โดยสรุปสาระสำคัญของแผนฯ 13 ได้ดังนี้ 13 จุดหมายเพื่อพลิกโฉมประเทศ 1.ภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย 1.1 ศูนย์กลางสินค้าดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 1.2 ประตูการค้าและการลงทุนและโลจิสติกส์ 1.3 การแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง 1.4 ฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก 1.5 การท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน 1.6 เกษตรและการเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง 2.โอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม 2.1SMEs ที่เข้มแข็ง ศักยภาพสูงแข่งขันได้ 2.2พื้นที่และเมืองอัจฉริยะ 2.3ความยากจนข้ามรุ่นและความคุ้มครองทางสังคม 3.ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3.1เศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ 3.2การลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลง 4.ปัจจัยผลักดันการพลิกโฉมประเทศ 4.1กำลังคนที่มีสมรรถนะสูง 4.2ภาครัฐที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพตอบโจทย์ประชาชน โดยได้ให้ข้อมูลของโลก ข้อมูลของสถานภาพประเทศ และผลลัพธ์จากโควิด -19 มาเป็นฐานข้อมูลว่าในปี 2563-2564-2565 ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง และจะสามารถสร้างความเติบโตได้เพียงใด รวมถึงมี KPI ไว้ให้พิจารณาด้วย รวมถึงปลายปี 2570 ไทยจะได้อะไรจากแผนพัฒนาฯฉบับนี้ซึ่งจะนำเสนอต่อไป หากแผนฯ 13 นี้สามารถแก้โจทย์ที่ยากของรัฐบาลได้ตามเป้าหมายก็น่าดีใจ ที่สภาพัฒน์ คิดตอบโจทย์ล่วงหน้าเอาไว้ ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับแผนละเอียดในเชิงปฏิบัติและกลยุทธ์ที่เขียนไว้ชัดเจนเพื่อให้ 16 กลุ่มประชาชนได้วิเคราะห์และมีความเห็น น่าจะเป็นเรื่องที่ดี มีประโยชน์ เพราะเป็นผลกระทบกับชีวิตวามเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ช่วยกันเสนอแนวคิดให้หลากหลายเพื่อประเทศไทยสามารถพลิกโฉมได้