ทีมข่าวคิดลึก
การแถลงผลงานรัฐบาล ในวันนี้ 15 ก.ย. มีขึ้นตามนัด หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีอันต้องเลื่อนจากวัน เวลาเดิม จาก 12 ก.ย. มาเป็นวันนี้แทน เนื่องจากรองนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าร่วมแถลงผลงานกับ"บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ติดภารกิจ
แน่นอนว่าแถลงผลงานรัฐบาลรอบนี้ ครบรอบปีที่ 2 และกำลังจะก้าวไปสู่ปีที่ 3 ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิม โดยในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะนำทีมรองนายกฯ แถลงหยิบยกวาระสำคัญที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ และได้มีการขับเคลื่อนเดินหน้าไปอย่างไร เกิดผลงานเป็นรูปธรรมแทนการแถลงข่าวเป็นรายกระทรวงเหมือนที่เคยทำมา
สิ่งที่หลายฝ่ายกำลังเฝ้าจับตาจังหวะการเคลื่อนไหวของรัฐบาล และคสช. เมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เดินหน้าไปตามโรดแมป ปักธงเอาไว้ที่การเลือกตั้งราวปลายปี 2560 นั่นหมายความว่า วันเวลาของ คสช. เองจากนี้ จะเหลือ 1 ปีครึ่ง เป็นอย่างน้อย ขณะที่ภารกิจในมือ คสช. เองต้องยอมรับมีไม่น้อยที่ยังต้องสานต่อ โดยผ่านทั้งกลไกข้าราชการประจำ ไปจนถึง "แม่น้ำ 4 สาย" ในมือ
แต่ถึงกระนั้น น่าสนใจว่า แม้การเดินทางของ คสช. ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา และยังเหลือเวลาในวันข้างหน้าอีกราว 1 ปีครึ่งอีกด้านหนึ่งกลับพบว่า กำลังของฝ่ายการเมืองเองได้อยู่ในสภาพที่อ่อนล้าอ่อนแรงกันถ้วนหน้า ทั้งในทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะ 2 พรรคการเมืองใหญ่ "ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" ที่อยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยงว่าที่สุดแล้ว โอกาสที่จะมีทางเลือก ให้กับตัวเองนั้นดูจะไม่ง่ายดายนัก !
สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติอย่างหนักหน่วงทั้งการที่วันนี้ ไร้ซึ่ง "หัวขบวน" เพราะยังตอบไม่ได้ว่า "ใคร" จะก้าวขึ้นมานำทัพในการเลือกตั้งรอบหน้า เพราะแม้จะมีความพยายาม ส่งสัญญาณโดยชื่อ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" แกนนำพรรค ว่าเธอได้ผ่านการยอมรับจาก "ศูนย์อำนาจใหญ่"ภายในพรรคเพื่อไทยแล้วก็ตาม
ที่สุดแล้วอาจเป็นเพียงแค่ "ข่าวปล่อย" เพื่อหยั่งเชิง ประเมินท่าทีจาก คสช. เท่านั้น ว่าจะขานรับและเมินเฉยต่อชื่อคุณหญิงสุดารัตน์เพราะต้องไม่ลืมว่าวันนี้ คสช. คือ "ผู้กำหนดเกม" การเล่นแทบทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะเป็น "ตัวเลือก" ให้มาเป็น "หุ้นส่วน" ทางการเมืองแต่อย่างใด
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เองแม้จะไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในข่ายฝ่ายตรงข้ามกับ คสช. ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าปัญหาภายในพรรค ที่กำลังเกิดศึกชิงอำนาจ ระหว่าง "ขั้วอภิสิทธิ์" กับ"ขั้ว กปปส." ที่นับวันจะระอุมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้เกิดแรงกระแทกเป็นวงกว้าง จนไม่เป็นอันได้วางแผนรับมือในการเลือกตั้งรอบหน้ากันได้เต็มที่
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่อึดใจข้างหน้า แม้สนามเลือกตั้ง ปลายปี 2560 จะรออยู่ แต่ดูเหมือนว่ายังเป็นประเด็นที่น่าหนักใจสำหรับ "นักการเมือง" ว่าจะสามารถ "ตั้งหลัก" ได้ทันหรือไม่ หรือจะเป็นห้วงเวลาที่มีแต่จะทำให้ คสช. และแม่น้ำทุกสาย ได้ใช้เป็น "โอกาสทอง" ในการยึดกุมอำนาจ โดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจแต่อย่างใด !