รัฐบาลอาจต้องทบทวนนโยบายของพรรคใหม่

ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] รัฐบาลยอมถอยกับงบประมาณเรือดำน้ำ 2 ลำมูลค่า 22,500 ล้านบาทไปแล้ว ทำให้บรรยากาศของอนุกรรมการ พ.ร.บ.งบประมาณปี 65 ลดความแข็งกร้าวลงไปบ้าง แต่ยังมีงบประมาณของกองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ยังมีซ่อนเร้นไว้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อยู่อีก รัฐบาลปลดล็อกงบประมาณไปได้แล้วก็ตาม แต่จะมีงบของกองทัพอีกหลายส่วนที่จ้องซื้ออาวุธเพื่อความมั่นคงอยู่อีก ซึ่งในจุดนี้คงต้องชะลอไปก่อน เพราะความยากจนของประชาชนที่เป็นเจ้าของภาษีกำลังจะไปไม่รอดอยู่แล้วกับโควิด-19 ในปัจจุบันที่มีผู้ติดเชื้อวันละกว่าหมื่นรายติดต่อกัน และมีผู้เสียชีวิตเหยียบหลักร้อยเช่นกัน ถ้าถอยและชะลอไปได้ถอยเถอะครับ เพื่อมิให้มีแรงกดดันทางการเมืองเพิ่มขึ้นอีก ในสภาวะปัจจุบันเรายังถกเถียงกันในประเด็นของวัคซีนกันอยู่ เพราะวัคซีนมาไม่ทันฉีดป้องกันให้ประชาชน แม้ว่าซิโนแวค 2 เข็มยังมีผู้เสียชีวิตอีก การตัดสินใจซื้อในสถานการณ์ในอดีตก็ดีครับเพราะช่วยผู้คนได้มาก แม้ว่าจะมีอาการแทรกซ้อนอยู่บ้างก็ตาม แต่การซื้อโดยไม่มีแพทย์ร่วมด้วยในการพิจารณาจึงผิดเป้าหมายไปบ้าง พอดีกับโควิดสายพันธุ์ใหม่เดลตาของอินเดียเข้ามาอาละวาด จึงทำให้ไม่สามารถป้องกันได้ ซิโนแวคจึงตกกระป๋องไป ประชาชนไม่เห็นด้วยซึ่งควรมีวัคซีนที่มีคุณภาพมากกว่านี้ กระทรวงสาธารณสุขลงนามจัดซื้อไฟเซอร์ 20 ล้านโดสเรียบร้อยแล้ว และสหรัฐฯมอบให้อีก 1.5 ล้านโดส คาดว่าจะมาถึงไทยปลาย ก.ค. และไตรมาส 4 ทำให้ประชาชนอุ่นใจได้บ้าง ขออย่าเป็นเพียงข่าวว่าจะมาวันนั้นวันนี้ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ให้ประชาชนมั่นใจว่าเขามีโอกาสได้ฉีดไฟเซอร์ที่เป็นวัคซีน mRNA ที่ทุกคนปรารถนา แม้ว่าล่าช้าไปบ้างแต่มีโอกาสได้บูสเตอร์เพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้ประเทศไทยล็อกดาวน์ 13 จังหวัดแล้ว คาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและการเสียชีวิตน่าจะลดต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันยังทรงตัวอยู่ที่วันละหมื่นกว่าคน ล็อกดาวน์จะเอาอยู่หรือเปล่ายังไม่แน่ใจ อาจต้องมีมาตรการเข้มข้นขึ้นอีก รัฐบาลต้องเอาเงินกู้ 5 แสนล้านบาทมาเยียวยาประชาชนที่นับวันจะหมดแรงทำมาค้าขายกันแล้ว หมดโอกาสได้ทำงาน แถมยังจ่ายเงินเยียวยยาล่าช้าอีก ยังไม่มีกำหนดว่าจะได้รับเงินกันเมื่อใด น่าจะหาวิธีจ่ายเงินให้เร็วได้ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มุ่งเน้นพัฒนากองทัพและโครงสร้างพื้นฐานกันมากมาย จนลืมสนใจที่จะพัฒนาด้านสังคมที่มีจุดที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไป โดยเฉพาะดูได้จากการจัดสรรงบประมาณ เห็นได้ชัดว่าเน้นรถไฟราง รถไฟความเร็วสูงหลากหลาย สนามบิน ท่าเรือ เหล่านี้มากมายเห็นเป็นรูปธรรม แต่การหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ลืมไปหลายเรื่องโดยเฉพาะด้านสังคมและการศึกษาของประเทศ จริงอยู่โครงสร้างพื้นฐานมีความจำเป็นสำหรับอนาคตแต่สังคมควรได้รับการพัฒนาไปพร้อมกัน ขอให้ทบทวนนโยบายการหาเสียงของพรรคไว้ ว่าอะไรที่ยังไม่ได้ทำ และจะทำกันเมื่อใดหรือปรับนโยบายให้ประชาชนได้เห็น รัฐบาลกำลังได้รับความชื่นชมน้อยลง เพราะมีประชาชนหลายกลุ่มมาขับไล่เป็นประจำ ยังมีเวลาปรับบทบาทอีกปีเศษๆ อะไรทำได้ควรรีบทำครับ โดยเฉพาะความยากไร้และความหิวโหยของประชาชน