เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะปรับเล็ก ปรับใหญ่ อย่างไรก็ต้องปรับ ภายหลังจากพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลาออกไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การปรับคณะรัฐมนตรี”อย่างมีนัยสำคัญ
โดยผลการสำรวจระบุว่า กระทรวงที่ให้มีการสลับสับเปลี่ยนการทำงานของคณะรัฐมนตรีมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 18.40 ระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 9.04 ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงศึกษาธิการ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 6.88 ระบุว่า กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 5.28 ระบุว่า กระทรวงการคลัง ร้อยละ 5.12 ระบุว่า กระทรวงกลาโหม ร้อยละ 4.32 ระบุว่า กระทรวงแรงงาน ร้อยละ 4.24 ระบุว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 4.00 ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมร้อยละ 2.88 ระบุว่า กระทรวงคมนาคม ร้อยละ 2.16 ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 1.84 ระบุว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร้อยละ 1.04 ระบุว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยละ 3.12 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการให้สลับสับเปลี่ยนการทำงานของคณะรัฐมนตรีทั้งหมด แต่ก็มีร้อยละ 3.04 ระบุว่า ไม่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี
จะบังเอิญหรือไม่ก็ตาม กระทรวงแรงงานที่ถูกระบุในผลสำรวจให้มีการปรับเปลี่ยน เป็นกระทรวงแรกที่ปลดล็อกให้มีการเปลี่ยนแปลง แม้ไม่อาจนำผลสำรวจดังกล่าว มาเป็นแนวทางสำหรับกระทรวงอื่นๆ ว่าจะเดินตามรอยกระทรวงแรงงานหรือไม่
กระนั้น มีนักการเมืองออกมาเสนอแนะให้พล.อ.ประยุทธ์ นำโมเดลของ จอมพลสฤษิ์ ธนะรัชต์ มาใช้ในการปรับคณะรัฐมนตรี โดยดึงคนเก่งมาทำงานในกระทรวงต่างๆ แล้วให้รัฐมนตรีในโค้วต้าทหารนั้นออกไปพักผ่อน
ข้อเสนอเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย พูดขึ้นมาเท่ๆ แต่อาจทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหลือระยะเวลาเพียงปีสุดท้ายตามโรดแมปของรัฐบาลด้วยแล้ว จำเป็นต้องประคองสถานการณ์ให้นิ่งที่สุด ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมใดๆโดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ต้องเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบ ก่อนถึงพระราชพิธีสำคัญ
อีกทั้ง ถึงจะปรับครม. ล้างหน้าไพ่ทั้งหมดก็ไม่มีประโยชน์อะไร หากรูปแบบการทำงานยังเป็นแบบเดิม คือ “วันแมนโชว์”
การปรับรูปแบบการทำงาน กระจายอำนาจความรับผิดชอบอย่างแท้จริง อาจเป็นคำตอบที่ดีกว่าการปรับคณะรัฐมนตรี แม้จะเป็นไปได้ยากพอๆกัน