"สถานการณ์ข้างหน้าผมคิดคนเดียวไม่ได้ ต้องคิดกันหลายๆพรรค หลายๆคน ว่ามีความเหมาะสมขนาดไหนและสถานการณ์เป็นอย่างไร และในส่วนของพรรคพปชร. ทุกคนก็เห็นแล้วว่ามีความเข้มแข็งหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการไปดูดใครเข้ามาอยู่กับพรรค สื่อคิดกันไปเองทั้งนั้น" "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ "ผู้จัดการรัฐบาล" ตอบคำถามสื่อมวลชน เมื่อถูกซักถึงประเด็นร้อน ว่ามีความมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม โดยไม่มีการยุบสภาก่อนใช่หรือไม่ และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อย่าลืมว่า กระแสยุบสภาฯ และเลือกตั้งใหม่ มีความเชื่อมโยงมาจาก การส่งสัญญาณจาก "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เองว่ารัฐบาลเหลือเวลาทำงานอีก1ปี ขอให้ทุกกระทรวง เร่งสร้างผลงาน เมื่อ "หัวหน้ารัฐบาล" เป็นฝ่ายจุดพลุว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเอง จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะพบว่า ทั้งกองเชียร์ -กองแช่ง ส.ส.ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ต่างพากันมีปฏิกิริยาต่อเรื่องดังกล่าวกันทันควัน ! ยิ่งเมื่อเวลานี้ ดูเหมือนว่า รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เองไม่มีห่วง ให้กังวลแล้ว เมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ผ่านความเห็นชอบไปเรียบร้อยแล้วในวาระแรก ตามมาด้วย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5แสนล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ผ่านสภาฯไปได้อย่างฉลุยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยคะแนน 270 ต่อ 196 เสียง แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนอยู่ที่ว่า แท้จริงแล้ว "ผู้กำหนดเกม" นั้นคือฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะ บิ๊กป้อมและบิ๊กตู่ ต่างหากว่าเมื่อใด คือ "เวลาที่เหมาะสม" ควรแก่การยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่ ภายใต้ "ความได้เปรียบ" ที่จะต้องมีชัยเหนือ ทุกพรรคการเมืองให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น "พรรคฝ่ายค้าน"หรือ พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ จึงจะเต็มไปด้วยความเข้มข้น ทั้งในเบื้องหน้า และเบื้องลึก เพราะบรรดานักการเมือง ต่างอ่านเกมกันขาดไม่ด้อยไปกว่ากันว่า รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องอยู่จนครบเทอม ให้ครบ 4ปี เพราะ "เวลา" ย่อมไม่ใช่ "เงื่อนไข" ที่เหนือไปกว่า "สถานการณ์" ยิ่งอยู่นานจนครบเทอม แต่ยืนอยู่บน "กระแสลบ" โดนพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายแค้นไล่ถล่มจนไม่เหลือ "คะแนนนิยม" จะมีแต่ความเสียเปรียบ หมดทางที่จะกลับเข้าทำเนียบฯกันอีกรอบ แต่หากประเมินแล้วว่า เมื่อใด ที่รัฐบาลสามารถ "กู้วิกฤตโควิด" จนได้ชัยชนะ บวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลิดอกออกผล การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นได้ใหม่ เมื่อถึงเวลานั้น ทั้ง "บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่" จะเป็นฝ่ายตัดสินใจ ต่างหาก !