การออกมาเคลื่อนไหว ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คล้ายกับว่าจะสร้างความฮือฮาไม่น้อย เพราะเป็น แอคชั่นจาก “คนกันเอง” ที่เคยสนับสนุน “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาก่อนในนาม “กลุ่มประชาชนคนไทย”
นั่นหมายความว่า เมื่อ “คนกันเอง” ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมเสียสละ ลาออกเนื่องจากล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด - 19 และการปฏิรูปการเมือง เพื่อเปิดทางให้มีการตั้ง “รัฐบาลสร้างชาติ” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ขึ้นมาบริหารราชการแผ่นดินแทน
กลุ่มประชาชนคนไทย ใช่ชื่อย่อ ว่า ปท. ประกอบด้วย นิติธร ล้ำเหลือ, ปรีดา เตียสุวรรณ์ นักธุรกิจคนดัง ศิริชัย ไม้งาม และพิชิต ไชยมงคล โดยทั้งนิติธร และศิริชัย ต่างเคยเป็น เคยเป็น1ในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ส่วนปรีดา คือ นักธุรกิจเจ้าของแพรนด้า จิวเวลรี่ และพิชิต คือแกนนำในกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
ออกมาเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละ ด้วยการลาออก นอกเหนือไปการยกความล้มเหลวของการบริหารจัดการโควิด-19 ของรัฐบาล ขึ้นมากระแทกได้ถูกจังหวะแล้ว ยังถือโอกาสนี้ “ทวงสัญญา” ว่าผ่านไปแล้ว 7ปี หลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)แต่ประเทศชาติยังไม่มีการปฏิรูปเกิดขึ้น ตามที่หัวหน้าคสช.ในปี 2557 ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เคยให้สัญญาเอาไว้
“ ถึงเวลาแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียสละตนเองเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดรัฐบาลสร้างชาติขึ้นมาตามรัฐธรรมนูญ ภายใต้กลไกรัฐสภา เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และแก้ปัญหาการกระจายวัคซีนให้เป็นรูปธรรมและให้ถึงประชาชนให้เร็วที่สุด
รัฐบาลสร้างชาติต้องดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยโดยมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน รัฐบาลสร้างชาติที่เกิดขึ้นจะต้องดำเนินการเรื่องของการปรองดองแห่งชาติให้เกิดขึ้นให้ได้ แต่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องลาออกและเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลสร้างชาติขึ้นมา ” พิชิต ระบุตอนหนึ่งระหว่างการแถลงข่าว
เมื่อกลุ่มประชาคนไทย โยนหินลงมา บรรดาส.ส.พรรคฝ่ายค้าน จึงออกมาโดดรับลูกทันควัน ไม่ว่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกล ต่างสนับสนุนแนวคิดของกลุ่มการเมืองที่เคยยืนอยู่ตรงข้ามกับตัวเอง คล้ายกับว่าลืมความบาดหมางกันชั่วคราว ด้วยมี “ศัตรูร่วม” คนเดียวกันคือ พล.อ.ประยุทธ์
การออกมาจุดพลุว่าด้วย “รัฐบาลสร้างชาติ” ที่จะมาได้ตามมาตรา 272 จากทั้ง “คนกันเอง” และส.ส.พรรคฝ่ายค้าน แน่นอนว่า จะกลายเป็น “พลุ” ที่จุดไม่ติด อยู่ดี !
ไม่ใช่เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่รักของคนทั้งประเทศ
ไม่ใช่เพราะการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ ที่รับมือกับไวรัสโควิด-19 หาข้อผิดพลาดไม่เจอ
ไม่ใช่เพราะ รัฐบาลมีความแข็งแกร่ง จนทำให้ “ตีไม่แตก”
แต่เป็นเพราะสถานการณ์เวลานี้ ผู้คนในประเทศ ต่างให้น้ำหนักและความสนใจไปยังเรื่องโควิด ปัญหาปากท้อง และมาตรการกระตุ้น บวกกับการเยียวยาเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้น เหนืออื่นใด
หากจะบอกว่า “คนกันเอง” กับ “ฝ่ายค้าน” เลือกจับมือกัน เพื่อเปิดแผลรัฐบาลด้วยประเด็นโควิด ถูกจังหวะก็คงไม่ผิดนัก แต่ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งคือการสะท้อนให้เกิด “แนวร่วมมุมกลับ” ไม่เอาด้วยกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมือง ที่เล่นการเมือง ชนิดที่ไม่รู้จักเวล่ำ เวลา !