ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] หลังสงกรานต์ผ่านไป รัฐบาลต้องมาพบกับปัญหาใหญ่จากการระบาดโควิด-19 รอบ 3 มีผู้คนติดเชื้อกันมากมายวันละพันกว่าราย ถึงวันนี้มียอดสะสม 5 หมื่นกว่าคน ยกระดับมาอยู่อันดับที่ 100 เศษ ของโลก ไทยได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งหรือแชมป์ของการระบาดมากกว่าประเทศอื่นๆถึง 2.27 ซึ่งเท่ากับว่าค่า R จำนวน 1 คน สามารถสร้างการติดต่อได้ถึง 2.27 คนในรอบที่ 3 นี้ ผับดัง 2 ผับ คือ Cristal Club และ Emerald Club เป็นแหล่งกำเนิดของโควิดรอบที่ 3 และเป็นเชื้อของอังกฤษ ซึ่งสามารถระบาดได้รวดเร็ว กระจายไปทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ผู้คนทุกคนต่างติดโควิดกันถ้วนหน้าไม่เว้นทั้งแพทย์-พยาบาล และการติดเชื้ออย่างรวดเร็วทำให้ยารักษาไวรัส 5 แสนเม็ดร่อยหรอต้องใช้อย่างประหยัดเฉพาะผู้ป่วยร้ายแรงถึงขั้นลงปอดแล้ว จึงน่าเป็นห่วงอีกรอบว่าจะสามารถหายามาทันภายใน 2 สัปดาห์หรือไม่ นอกเหนือจากมีมารตรการหลายๆวิธีการแล้ว รัฐยังต้องจัดหาวัคซีนมาฉีดเพิ่มให้ประชาชนอีก เพราะการฉีดวัคซีนสามารถลดการติดเชื้อได้ดี เช่นในอินโดนีเซียและอเมริกา ต่างระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนจนอัตราการขยายเชื้อหรือค่า R= 1.0 เห็นได้ชัดว่าวัคซีนเท่านั้นจะช่วยบรรเทาความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ผับ 2 แห่งที่ทองหล่อ ถูกปิดมาแล้ว 2 สัปดาห์ คาดว่าน่าจะถูกปิดอย่างถาวร เพราะไม่มีใบอนุญาตและเปิดมาเป็นเวลานาน เพราะเหตุผลว่ามีเส้นภายในช่วยกันเอาไว้ ทำให้ สน.ทองหล่อติดโควิดกันเป็นแถวๆ นอกจากจะถูกปิดแล้ว ควรให้ผับ 2 แห่งออกค่าใช้จ่ายในการรักษาเอง เพราะขาดความรับผิดชอบ ฝ่าฝืน พ.ร.บ. ทำให้อาชีพอื่นเขารักษาความผิดชอบต่อสังคมได้ดีกว่า ประเด็นความล่าช้าในการหาแหล่งวัคซีนค่อนข้างยากในช่วงนี้ ทั้งๆที่ภาคเอกชนยอมเสียค่าใช้จ่ายเอง และรับว่าจะช่วยหาทีมฉีดให้ด้วย แต่รัฐอ้างว่าเขาจะขายให้แก่รัฐเท่านั้น ก็น่าจะลองเจรจากับรายอื่นๆดูอีกสักครั้งอาจจะได้วัคซีนมาช่วยเสริมให้ได้อย่างน้อยสัก 3-5% เพราะขณะนี้ฉีดไปเพียง 0.8% ของจำนวนประชากรเท่านั้น นอกจากวัคซีนแล้ว ยังมีปัญหากับยารักษาไวรัสที่เคยใช้อยู่อีก ควบคู่ไปกับการหาแหล่งที่จะเป็นสนามพยาบาลเพิ่มเติม เพราะหากไม่เตรียมให้พร้อม ปล่อยไปเรื่อยๆตามยถากรรม การติดเชื้อจะเพิ่มเป็นวันละแสนราย ถือว่าร้ายแรงและอันตรายสำหรับประเทศค่อนข้างมาก รัฐควรจะต้องปิดประเทศไว้ก่อน แล้วลุยแก้โควิด-19 ให้เรียบร้อยเสียก่อน แม้ว่าจะขาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ทำให้ขาดรายได้วันละ 5 หมื่นล้านบาทก็ตาม แต่ประเทศปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่าไหม ขอเอาใจช่วยรัฐบาลได้แก้ปัญหาทั้ง 2 เรื่องให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน ซึ่งจะกระทบกับวิกฤติเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง GDP ที่คาดว่าจะโต 4% คงเหลือเพียง 2% ก็นับว่าบุญแล้ว