สงกรานต์ปีนี้ มีอุปสรรคอีกปี

ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] 13 เมษายน วันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ของไทยในอดีตหวังว่าคนไทยเราคงต่างรักษาประเพณี วัฒนธรรม อันดีงามกันถ้วนหน้า เช่น รดน้ำดำหัวพ่อ-แม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ เข้าวัดทำบุญ ก่อพระเจดีย์ทรายแล้วออกมาพรมน้ำกันโดยไม่มีการสาดน้ำ ตามที่รัฐบาลร้องขอ แต่ก่อนหน้านี้โควิด-19 ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ เปิดคลัสเตอร์ใหม่สำหรับการระบาดโควิด เช่น สถานบันเทิง บาร์ คลับ และในเรือนจำ จ.ปัตตานี ซึ่งปรากฏว่าได้ติดกันงอมแงมและยังมีข่าวว่ารัฐมนตรีบางท่านไปเที่ยวในสถานบันเทิงย่านทองหล่อซึ่งยังมีเชื้อเก่าอยู่ แต่รัฐมนตรีต่างไม่แสดงตัวเก็บอาการไว้คนเดียวเงียบๆ โควิด-19 รอบนี้เพิ่มขึ้นวันละเป็นร้อยคนและยังมีผู้ใกล้ชิดติดเชื้ออีกหลายร้อยคน ทำให้เป็นกังวลไม่ได้ว่าสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลได้ปล่อยให้มีเสรีมากขึ้น อาจรวมกลุ่มกินอาหาร ร้องเพลง และไปเที่ยวสถานบันเทิงในต่างจังหวัดกันอีก เชื่อว่าโควิดที่มีอยู่จะแพร่เชื้อให้กับผู้คนได้อีกมาก ทำให้รัฐบาลประกาศยกเลิกจัดงานสงกรานต์กันหลายจังหวัด บางจังหวัดต้องกักตัว 10-14 วัน จึงหวังว่าประชาชนคงต้องตระหนักถึงภัยรอบตัวกันไว้ให้รอดปลอดภัยดีกว่า ช่วงนี้ข่าวทางการเมืองคงมีไม่ยอมหยุด จากการที่คุณจตุพรให้ออกมาขับไล่บิ๊กตู่อีกรอบ แต่ผู้คนไม่ค่อยสนใจมากนัก มีคนมาร่วมไม่มาก คงทำแบบนี้ทุกวันก็คงไม่ได้คนสักเท่าใด เพราะบิ๊กตู่ไม่มีบาดแผลให้ขับไล่ และไม่มีคู่แข่งที่คู่ควร กับทั้งมีความดีมากมายที่ทำไว้กับประชาชน การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา พรรคคการเมืองง เช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคชาติไทยฯ ได้ร่างไว้หลายฉบับยกเว้นมาตรา 1-2 เท่านั้น นอกนั้นขอปรับแก้หมดแม้แต่อำนาจของ ส.ว. ซึ่งพรรครัฐบาลเองกลับไม่ขอแก้เพราะกลัวว่าจะไม่ผ่านในวาระแรก คงต้องรอดูกันต่อไป เปิดประชุมสภาวิสามัญรอบนี้จะมีความเคลื่อนไหวอะไรให้ติดตาม พรรคการเมืองต่างๆได้แตกพรรคใหญ่ให้เป็นพรรคเล็กๆกันบ้างแล้ว เพราะหวังว่านายกฯจะยุบสภา แล้วใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนเดิมกลับมาอีก นับไปนับมาได้ถึง 15 พรรคใหม่เอี่ยมแล้ว และอาจจะมีเพิ่มอีก การตั้งพรรคเล็กๆขึ้นมาทั้งหมดมุ่งหวังจะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อกับเขาบ้าง เพราะใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ไม่มีพรรคใดได้คะแนนมากเป็นอันดับหนึ่งพรรคเดียว เปลี่ยนเป็นบัตร 2 ใบ หวังว่าคะแนนที่ได้เท่าใดก็ตามมีสิทธิได้ ส.ส.กับเขาบ้าง แต่ที่แน่ใจคือการที่พรรคใหญ่แตกออกเป็น 3-4 พรรคเล็กๆนั้น มุ่งหวังที่จะมารวมกันภายหลัง เป็นวิธีการทางการเมืองที่ต้องจับตาดู วันนี้หากการเมืองไม่นิ่ง วุ่นวายมากนัก คงไม่มีทางเลือกนอกจากนายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจการยุบสภาแก้เกมการเมือง เพื่อเลือกตั้งกันใหม่ในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาล ย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว โครงการในอนาคต เช่น แลนด์บริดจ์ 9 แสนล้านบาทและโครงการใหญ่ๆอีกหลายโครงการ รัฐบาลจะยอมให้พรรคอื่นมาคว้าไปเป็นผลงาน คงจะยากเพราะเลือกตั้งใหม่นายกรัฐมนตรีคงชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนเดิม