ปล่อยให้ "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ออกมาแสดงบทบาท "แกนนำม็อบคนใหม่" แม้จะ "หน้าเดิม" แต่แล้วก็กลายเป็นว่า ไฟกลางเมืองรอบนี้กลับ "จุดไม่ติด" เพราะไม่เพียงแต่ "ม็อบ4เมษา" ในนามสามัคคีประชาชน ไทยไม่ทน ยังไม่ทำให้เกิดเอฟเฟกซ์ ส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตามที่ประกาศเอาไว้ แน่นอนว่าการชุมนุมของมวลชนคนเสื้อแดง เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้กลับไปใช้รูปแบบการชุมนุมของมวลชนคนเสื้อแดงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2553 เพียงแต่รอบนี้ไม่มีการพักค้างคืน เป็นการมารวมตัวเพื่อทำกิจกรรม มีเวทีปราศรัย ในรูปแบบเดิม โดยแกนนำคนเสื้อแดงและ อดีตแกนนำที่เคยร่วมเคลื่อนไหวกับม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ที่สุดแล้วเวทีคนเสื้อแดงที่มีจตุพร เป็นแกนนำก็ยังไม่ใช่ "แม่เหล็ก" ที่ดึงดูดมวลชนได้มาก มิหนำซ้ำยังกลายเป็นว่า เวทีนี้โอกาสที่จะได้เห็น "มิตรร่วมรบ" อย่าง "เต้น" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาขึ้นเวทีด้วยก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะจากการให้สัมภาษณ์ของณัฐวุฒิ บอกเลยว่า "ขอดูก่อน" นอกจากม็อบสามัคคีประชาชน ไทยไม่ทน จะไม่สามารถปลุกระดมมวลชนให้กลายเป็นม็อบเบิ้มๆ เหมือนในอดีตที่จตุพร เคยสร้างสถิติมาแล้ว ยังกลาเป็นว่า เจ้าตัวยังโดน "กองเชียร์รัฐบาล" ดาหน้าเปิดแผลเก่ามาถล่มไม่มีหยุดหย่อน ขณะที่ฝ่ายที่ถูกม็อบประกาศขับไล่ อย่างพล.อ.ประยุทธ์ เองกลับไม่ได้ให้น้ำหนักการเมือง "นอกสภาฯ" เพราะรู้ดีว่าโอกาสที่จะ "จุดติด" นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเมื่อ "หัวขบวน" อย่างจตุพร โดนถล่มไม่เป็นท่า ภารกิจเร่งด่วนของนายกฯ รวมถึงพี่น้อง "2ป." ทั้ง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ "บิ๊กป๊อก"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คือการกอดคอ ร่วมกันพาย "เรือเหล็ก" ลากยาวต่อไปให้นานที่สุด จนกว่า จะมั่นใจได้ว่าเป็นฝ่ายกุมชัยชนะทางการเมือง ผ่านการออกมาตรการต่างๆ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงรัฐบาลจะต้องต่อสู้กับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ให้ลุล่วง เพราะวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาใหญ่ของรัฐบาลคือการกลับมาระบาดรอบใหม่ ของไวรัสโควิด ซึ่งล่าสุดสิ่งที่เกิดขึ้นถึงกับทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจทั้งที่หวังว่าเทศกาลสงกรานต์นี้ประชาชนคนไทยน่าจะได้มีความสุข แต่ต้องมาเกิดปัญหาเพราะคนที่ขาดจิตสำนึก เวลานี้การเมืองนอกสภาฯ อาจยังไม่ถึงจุดที่เรียกว่า "สุกงอม" มากพอที่จะ "เขย่า" เรือเหล็กของ "พี่น้อง3ป." ให้ถึงขั้นอับปาง แม้จะมีความพยายาม จากเครือข่ายแนวร่วมต่อต้านรัฐบาล ที่จะถล่มพล.อ.ประยุทธ์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะทำให้เกิดภาพรัฐบาลทหารเผด็จการ ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม เหมือนกองทัพเมียนมาก็ตาม แต่พล.อ.ประยุทธ์ เลือกใช้วิธีการชุมนุมไป ดำเนินคดีไป หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพราะไม่ต้องการเป็นฝ่ายเดินเข้าหา "กับดัก" จนทำให้ต้องเสียงานใหญ่ เสียเอง !