รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ข่าวปิดกิจการมีให้เห็นบ่อยครั้งในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำมาหลายปีนี้ อีกทั้งยังเจอพิษโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้สถานประกอบการหลาย ๆ แห่งทยอยปิดตัวลง เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหวอีกต่อไป ล่าสุดบริษัทสิ่งทอในอุตสาหกรรมบางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ประกาศปิดกิจการแบบฟ้าผ่า โดยอ้างผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พนักงานมากกว่า 1,300 คน ต้องตกงานอย่างทันทีทันใดในวันนั้นเอง ก่อให้เกิดความสะเทือนใจ เสียใจอย่างมากสำหรับพนักงานที่อยู่ ๆ ก็ต้องมารับข่าวร้ายในช่วงเช้าตรู่ของวันเช่นนี้ นอกจากความเศร้าเสียใจของพนักงานแล้ว หากมองภาพรวมของประเทศไทย ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า “เศรษฐกิจไทย” ติดหล่มอย่างแท้จริง เพราะการเลิกจ้างแบบฟ้าผ่านี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น และไม่ได้หยุดลงที่บริษัทนี้เท่านั้น แต่สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) ยังแจ้งอีกว่าน่าจะมีตัวเลขผู้ตกงานแตะ 1.5 ล้านคนเป็นอย่างต่ำในปีนี้! หลายฝ่ายมองว่าถ้าจะให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ภาครัฐจะต้องเร่งมือในการแก้ปัญหา ช่วยเหลือเรื่องเงินทุน ส่งเสริมให้เกิดเงินหมุนในธุรกิจให้มีสภาพคล่อง ไม่เช่นนั้นแล้ว “การปิดกิจการ” ก็จะยิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น “คนตกงาน” ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย ที่สำคัญถ้าทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้นจริงไหม เพราะหากต้องรอจนถึงวันนั้น วันที่ทุกคนได้รับวัคซีนจนครบ (กี่เดือน กี่ปี?) ต่างชาติเขาอาจจะย้ายการลงทุนไปประเทศอื่นที่ต้นทุนถูกกว่า คนงานบ้านเราก็จะยิ่งตกงานมากขึ้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ต้องยอมรับว่า “ปัญหาตกงาน” เป็นปัญหาที่คนไม่อยากเจอมากที่สุด เพราะงานคือเงิน เป็นแหล่งที่มาของรายได้หลักในการจุนเจือครอบครัวและการดำเนินชีวิตของคนเรา หากไม่มีงานทำก็เกิดความเครียด กังวล ซึมเศร้า และยังส่งผลให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม อาชญากรรม หรือกระทบต่อเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศก็ตามที สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ตกงานปัญหาใหญ่! ของคนไทย ณ วันนี้” มีหลายประเด็นคำถามที่น่าสนใจ ได้แก่ ประการที่ 1 สถานการณ์การทำงานปัจจุบันเป็นอย่างไร เช่น ยังทำงาน หรือทำงานแต่รายได้ลดลง อาจจะตกงาน หรือตกงานแล้ว เป็นต้น ประการที่ 2 ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานการณ์ด้านการเงินเป็นอย่างไร เพิ่มขึ้น เท่าเดิม หรือลดลง เช่น ค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า ค่าอาหาร ค่าดูแลสุขภาพ หนี้สินในและนอกระบบ หนี้บัตรเครดิต เป็นต้น ประการที่ 3 ในยามที่ลำบากต้องการใช้เงินฉุกเฉิน จะหาเงินจากแหล่งใด เช่น การกู้เงิน การนำเงินออมออกมาใช้ ยืมจากเพื่อนหรือครอบครัว หรือไปโรงรับจำนำ เป็นต้น ประการที่ 4 มองสถานการณ์ตกงานของคนไทย ณ วันนี้เป็นอย่างไร และประการที่ 5 ช่วยกันคิดแก้ปัญหาตกงานของคนไทย มีวิธีใดบ้าง อยากให้รัฐทำอะไร จะแก้ด้วยตัวเองอย่างไร เป็นโพลที่สะท้อนภาพชีวิตของคนทำงานนะครับ ว่ามองอย่างไรกับปัญหา “ตกงาน” ซึ่งนับได้ว่าเป็นภาระหนักของประเทศไทย ณ วันนี้อย่างยิ่ง แต่ผลโพลจะเป็นอย่างไร ติดตามผลโพลได้ในวันอาทิตย์นี้ครับ!!