ความคืบหน้าของการเปลี่ยนแปลงองค์การปกครองท้องถิ่น อปท. ที่ร่างกฏหมายกันอยู่ขณะนี้ จะเปลี่ยนองคืการบริหารส่วนตำบลให้เป็นเทศบาลให้หมด ตำบลไหนเล็กเกินไปที่จะเป็เทสบาลได้ ก็ให้รวม อบต.หลายแห่งเข้าด้วยกัน จัดตั้งเป็นเทศบาลตำบล
เรื่องราวไม่น่าจะยุ่งยากอะไรนัก
ยกเป็นเทศบาลที่ดูจะใหญ่กว่า อบต. น่าจะช่วยให้ อปท. บริหารได้ดีขึ้น
ที่สำคัญก็คือ ปัญหาทางสังคมมิได้อยู่ที่โครงสร้าง และหน่วยงานรูปธรรมของการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่อยู่ที่คุณภาพของคน ทั้งคนที่สมัครรับเลือกตั้งและคนที่ออกเสียงเลือกตั้ง
จะสร้างระบบให้ดีอย่างไร แต่ถ้าคุณภาพของคนยังไม่พัฒนาดีขึ้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนรุปแบบ อผท.ไปอย่างไร ผลรูปธรรมมันก็เหมือนเก่า
เมื่อเป็นเทศบาล ก็ย่อมมีฝ่ายบริหารและสภาเทศบาล การทำงานขอเทศบาลก็คงคล้าย ๆ กับสภาผุ้แทนราษฎร คือกำกับตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร
แต่ทั้งนี้ สภานั้นก็ยังนับว่าเป็น “สภารัฐ” คือสมาชิกสภาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
การปกครองรุปแบบประชาธิปไตยนั้น ยังสามารถมีสภาอีกรูปแบบหนึ่ง อาจจะเรียกว่า “สภาราษฎร์” หรือ “สภาประชานชน” คือประกอบด้วยประชาชนจริง ๆ มิได้มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
สภาประชาชนนี้อยู่นอกระบบรัฐสภาและสภาเทศบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เป็นสภาที่มาจากการ “จัดตั้ง” คือการจัดตั้งมวลชนตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด เพื่อทำงานดุแลการเมืองเป็นหลัก ปลูกจิตสำนึกทางการเมืองเรื่องประชาธิปไตยว่าไม่ได้มีเฉพาะการเลือกตั้งเพียงเท่านั้น หากพึงสำนึกด้วยว่าประชนนอกจากมีสิทธิเลือกตั้งแล้วยังต้องมีสิทธิ์ตรวจสอบ รวมถึงการถอดถอนและคัดค้านความไม่ชอบธรรมด้วย
ข้อสำคัญสภาราษฎรจะต้องปลอดจากรูปแบบตำแหน่งในทางการ อย่างกำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. หรือสมาชิกเทสบาลในอนาคต เพราะตำแหน่งดังกล่าวข้างต้นเป็นองค์กรของรัฐ อันจะทำให้สมาชิกสภาเหล่านั้นกลายเป็นกลไกรัฐไปด้วย
เรื่องสภาราษฎร์หรือสภาประชาชนนี้ ภาครัฐย่อมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยอ้างว่า ก็มีสมาชิกสภาเทศบาลมาจากเลือกตั้งจากราษฎรแล้ว หากมีสภาราษฎร์ที่ชุมชนหรือกลุ่มอาชีพจัดตั้งกันขึ้นมาอีกก็จะซ้ำซ้อนยุ่งยากมากเรื่องไปเปล่า ๆ
แต่ประชาธิปไตยนั้น ต้องส่งเสริมบทบาทของประชาชน
ที่ผ่าน ๆ มาสมาชิก อปท. ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ก็ยังมักเคยชินกับการทำตัวเป็นกลไกรัฐเสียเอง การส่งเสริมให้เกิดสภาราษฎร์มาทงานสักระยะหนึ่ง จะช่วยพัฒนาจิตสำนึกประชาธิไตยได้มากขึ้น
เรื่องสภาราษฎร์หรือสภาประชาชนนี้ ก็เคยมีผู้เสนอแนวทางไว้แล้วตั้งแต่มีสภาปกิรุปสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ แต่ภาครัฐไม่สนับสนุนเรื่องนี้ มันจึงยังเป้นแค่ความฝันต่อไป