ถ้าเปรียบ "พรรคประชาธิปัตย์" เป็นเรือ ก็ต้องยอมรับว่าห้วงเวลานี้มีแต่ "มรสุม" ที่โถมเข้าใส่เรือลำนี้อย่างต่อเนื่อง จนหลายคนต้องพากันเอาใจช่วย "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์" ในฐานะหัวหน้าพรรค ให้ถือหางเสือ ประคับประคองจนสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ไปให้ได้ ! คลื่นลมลูกใหม่ที่กระแทกเข้าซัดพรรคประชาธิปัตย์ รอบใหม่ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่เป็นเรื่องเดิมที่เคยเป็นทั้ง "จุดอ่อน -จุดแข็ง" ของพรรค โดยฝ่ายค้านที่ต้องการ กดดันพรรคประชาธิปัตย์ให้ "แสดงจุดยืน" เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าประชาธิปัตย์ จะเลือกทางไหน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ารัฐสภามีอำนาจในการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องทำประชามติสอบถามประชาชนก่อน โดยให้ทำด้วยกันถึงสองครั้ง แต่ปัญหาเกิดขึ้นมาตามมา เมื่อบัดนี้การตีความต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จากสมาชิกรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วยส.ส. จากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวมถึง ส.ว. กลับมีความแตกต่างกันออกไป ในระหว่างที่ฝุ่นควัน หลังสิ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญกำลังตลบอบอวลอยู่นั้น กลับกลายเป็นว่า "ฝ่ายค้าน" พากันดาหน้าออกมากดดันให้ พรรคประาชาธิปัตย์ แสดงจุดยืนให้ชัด ว่าถึงเวลาที่จะ "ถอนตัว" จากการร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง ? หากที่สุดแล้วรัฐธรรมนูญไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าเหตุใด แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ จึงจำเป็นต้องออกมาส่งสัญญาณว่า เมื่อถึงเวลาจะตัดสินใจเอง ไม่ต้องมากดดัน โดยเฉพาะสัญญาณจากแกนนำระดับ "นิพนธ์ บุญญามณี" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมายิงหมัดตรงเมื่อวันที่ 13มี.ค.ที่ผ่านมา " ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องมาจี้ เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร และจะมาพูดล่วงหน้าไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์ ประชาธิปัตย์เรามีวุฒิภาวะ ไม่ต้องมีใครมาจี้ มาบอก ถึงเวลาประชาธิปัตย์ตัดสินใจเอง ซึ่งก็เคยทำมาแล้ว" อย่างไรก็ดี ในความจริงแล้วรัฐบาลของ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีด้วยกันหลายพรรคการเมือง แต่ดูเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลายเป็น "เป้าหมายหลัก" ที่ถูกฝ่ายค้าน ไปจนถึงการเมือง "นอกสภาฯ" พากันรุมกดดัน ให้แสดงจุดยืนต่อการร่วมรัฐบาล หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีอันต้อง "แท้ง" ไปต่อไม่ได้ ทั้งนี้เป็นเพราะ ด้วย "จุดแข็ง" ที่พรรคประชาธิปัตย์ เคยนำมาชูในการเลือกตั้งส.ส.เมื่อ24 มี.ค.2562 และยังถูกนำมาใช้เป็น "เงื่อนไข" ในการเจรจาเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เด่นชัดกว่าใครเพื่อน นอกจากนี้ หาก "แรงกดดัน" ทั้งในและนอกสภาฯ ที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้เร่ง "สละเรือ" ประสบผลสำเร็จ จนนำไปสู่การประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ของพรรคร่วมรัฐบาล "อันดับสาม" ที่มีเสียง " 51ที่นั่ง" ย่อมมีน้ำหนักมากพอที่จะ "คว่ำ"รัฐบาล คว่ำเรือเหล็กของพล.อ.ประยุทธ์ จนนำไปสู่การยุบสภาฯตามมา ตามที่พรรคฝ่ายค้านและมวลชนนอกสภาฯคาดหวัง แต่นั่นอาจเป็นเกมหน้าเดียว ที่ไม่ทำให้เกิดประโยชน์อื่นใด นอกเสียจากสร้างความวุ่นวายต่อ พล.อ.ประยุทธ์ในทางการเมือง เพราะอย่าลืมว่า นาทีนี้จะมีพรรคการเมืองใด ที่พร้อมจะถอนตัวจากการเป็นรัฐบาลได้แท้จริง!!