แม้เวลานี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เคาะออกมาแล้วว่า วันเลือกตั้งกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี เป็นวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.64 แล้วส่วน สนามเลือกตั้งที่คาดว่าจะคึกคักและเข้มข้น โดยไม่ต้องรอไฟเขียวจากรัฐบาล ว่าจะให้เปิดสนามเมื่อใด คงไม่พ้น การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นสนามสุดท้ายสำหรับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ถือเป็นการปิดท้ายรายการ
ทว่าวันนี้ ในระหว่างที่จังหวะการเมือง จะเดินไปถึงการเลือกตั้งสนามเทศบาล ก็ใช่ว่า “สนามกทม.”จะซบเซาหรือเงียบเหงา ในทางตรงกันข้าม กลับพบว่า บัดนี้ บรรดา “ผู้เล่น”ได้ทยอยเปิดตัว เปิดหน้าออกมาแล้ว
และที่น่าสนใจไปกว่านั้น อย่าลืมว่า ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในรอบนี้ จะยิ่งเป็นสนามที่ชี้ขาด “ความนิยม” ระหว่าง “รัฐบาล” ผ่าน “พรรคพลังประชารัฐ” กับ “ฝ่ายค้าน” ที่คาดว่า “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคก้าวไกล” จะไม่ยอมพลาด ที่จะส่ง “ตัวแทน” ลงมาสู้
แต่ที่ซับซ้อนไปมากกว่านั้น คือการที่สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. นั้นยังเป็นพื้นที่สำคัญทางการเมือง สำหรับ พรรคร่วมรัฐบาล อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” ด้วยเช่นกัน มิหนำซ้ำยังจะต้องเผื่อใจเอาไว้สำหรับ “ม้ามืด” จาก “ผู้สมัครอิสระ” ที่จะมาพร้อมกับ “กระแส” ที่สามารถ “สวิง” ได้ทุกขณะ
ที่กำลังกลายเป็นประเด็นฮือฮา นาทีนี้คือกระแสข่าวที่ว่า “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. เตรียมแต่งตัวเพื่อมาลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.เมื่อรัฐบาลให้ไฟเขียว ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
ข่าวร้อน ข่าวล่าที่ว่านี้ ยังเกี่ยวพัน โยงใยไปถึง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าอาจจะเป็น “กองหนุน” ชั้นดี ที่จะทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เข้าวิน ไปนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ต่อจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้ไม่ยาก !!
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวของว่าที่ผู้สมัคร ที่เตรียมจะลงชิงชัยสนามผู้ว่าฯกทม.นั้นเต็มไปด้วยความคึกคัก จากแต่ละป้อมค่าย จนไม่อาจเก็บงำได้อีกต่อไป โดยเฉพาะในรายของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นเพียงแค่ “กระแสข่าว” แต่ล่าสุด ก็พบว่า งานนี้มีลุ้นว่า ชื่อของพล.ต.อ.จักรทิพย์ จะโลดแล่นเป็นหนึ่งในแคนดิเดต ที่จะถูกจับตามอง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เองแม้ในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งล่าสุดไม่สามารถ ได้ที่นั่งส.ส.กทม.เลยสักเก้าอี้เดียว แต่ใช่ว่าจะหมดความหวัง เว้นเสียแต่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเจอกับปัญหา หาผู้สมัครตัวแทนพรรคไม่ได้ หรือต้องการ “เปิดทาง” ให้กับพรรคพลังประชารัฐ
และเมื่อมองไปยังพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้ ต้องถือว่า อยู่ในอาการบาดเจ็บอย่างหนัก ทั้งจากศึกเลือกตั้งองค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) เมื่อปลายเดือนธ.ค.63 ที่ผ่านมา อีกทั้ง ภายในพรรคเองยังอยู่ในช่วง ปรับเปลี่ยนพรรคครั้งใหญ่ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเดินหน้าไปต่อไป ก็ยังไร้ตัวเลือกที่จะลงสนาม
อีกทั้ง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคเพื่อไทย ก็ตัดสินใจประกาศ ลงสมัครในนามอิสระ ยืนยันไม่กลับไปที่พรรคเพื่อไทยอีกแล้ว ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทย อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากไม่น้อย
ศึกสนามกทม. นั้นดุเดือด และซับซ้อน แต่ที่แน่ๆ แว่วว่า งานนี้ ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ พรรคพลังประชารัฐ หวังที่จะตีตราจอง ที่นั่งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม !