ปีนี้ดูท่าว่าภัยธรรมชาติจะร้ายแรง มันเกิดขึ้นทั่วเอเชีย ฝนตกมากจนน้ำหลากท่วมก่อความเสียหายมากในหลาย ๆ ประเทศ การเตรียมรับมือกับอุทกภัยควรจะประเมินความรุนแรงให้สูงไว้ดีกว่าประเมินต่ำ แต่ละจังหวัดจะต้องเตรียมมาตรการช่วยตัวเอง วางแผนให้รอบคอบรัดกุม แต่ละภาคก็ควรจะมีศูนย์การทำงานและศูนย์ประสานงาน เพราะถ้าจะรอความช่วยเหลือจากกรุงเทพทางเดียว การช่วยเหลืออาจช้าไม่ทันกาล อนึ่งเรื่องสำคัญที่สุดในการรับมือกับภัยธรรมชาติคือ ความรักสามัคคีของคนไทย แม้ภัยธรรมชาติจะหนักหน่วงร้ายแรงปานใด แต่ถ้าพี่น้องไทยมีความรักสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรื่องหนักก็จะเบาลง เรื่องใหญ่ที่น่าห่วงอีกด้านหนึ่งคือยังไม่ทันจะเลือกตั้งกันเลย Hate speech ทางการเมือง พูดเสี้ยมกันนัก ก็เริ่มมากขึ้น ภัยการเมืองทำร้ายจิตใจคนไทย สร้างความทุกข์ไม่น้อย ภัยการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พลเมืองไทยต้องสามัคคี ร่วมกันต่อต้าน “ความรุนแรง” ประชาชนอย่าหลงเป็นเครื่องมือทางการเมือง นอกจากภัยธรรมชาติ ภัยการเมืองที่ทำร้ายประเทศไทยแล้ว ชาวไทยก็ยังมีความเสี่ยงภัยอันตรายร้ายแรงอีกประการหนึ่ง นั่นคือภัยเศรษฐกิจ ลำพังภัยธรรมชาติครั้งล่าสุดก็ทำให้เดือดร้อนมากทั้งราษฎรและรัฐ เพราะรัฐจะต้องหาเงินมาจ่ายชดเชยความเสียหายของประชาชน ต้องหาเงินมาซ่อมแซมฟื้นฟูสาธารณูปโภค อาคารของหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย ฯลฯ ถ้าเกิดภัยเศรษฐกิจขึ้นอีก จะยิ่งลำบากกันมากยิ่งขึ้นหลายเท่า ชาติไทยประสบกับวิกฤติการเมืองต่อเนื่องที่สร้างความเสียหายทั้งด้านจิตวิญญาณ ด้านวัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจ และชิวิตทรัพย์สินมหาศาล สูญเสียโอกาส เสื่อมเสียความศรัทธาเชื่อถือ ความนิยมชื่นชมของชาวต่างประเทศไปมากมาย ลำพังเรื่องนี้ก็เป็นภาระใหญ่หลวงที่คนไทยต้องแบกรับภาระฟื้นฟูอยู่แล้ว ซ้ำร้ายยังมาประสบภัยธรรมชาติใหญ่หลวง เสียหายย่อยยับกันอีกเกือบทั่วประเทศ ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจระดับครัวเรือนของประชากรไทยอย่างมหาศาล ความช่วยเหลือจากรัฐในระดับที่งบประมาณแผ่นดินจะรับไหวนั้น คนไทยหวังได้ แต่จะหวังให้รัฐปรับปรุงแก้ไขปัญหาทุกด้าน เช่น ชลประทาน ผังเมือง การเอนภัย การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ฯลฯ อย่างเป็นระบบมีประสิทธิภาพนั้น ยังหวังได้ยาก