เสือตัวที่ 6
แม้ว่าความพยายามในการนำสันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่ปลายด้ามขวานของไทย ยังคงไม่บรรลุผลสำเร็จ 100% หากแต่หลายๆ คนในดินแดนไทยที่เป็นส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ต่างก็มีความเข้าใจในการขับเคลื่อนของภาครัฐไปสู่เป้าหมายปลายทางดังกล่าว เพราะงานการต่อสู้กับขบวนการจุดไฟใต้แห่งนี้ ล้วนเกิดจากการหล่อหลอมบ่มเพาะให้เกิดความคิดแปลกแยกอย่างเป็นระบบกับคนในพื้นที่ โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ให้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน และไม่ห้วงเวลาใดเลยที่จะลดละกระบวนการในการหล่อหลอมบ่มเพาะแนวคิดแปลดแยกเหล่านั้น ส่งผลให้กระบวนการบ่มเพาะแนวคิดแปลกแยกแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีความกล้าแข็งมากขึ้นตามลำดับ ความเข้มแข็งในการระดมแนวร่วมมวลชนให้เป็นสมาชิกในที่ลับ จึงมีพลังมากพอที่จะสืบทอดแนวคิดที่เป็นปรปักษ์กับรัฐอย่างต่อเนื่องและทรงพลัง
เหล่านั้นคือความยากลำบากในการขับเคลื่อนของรัฐในการต่อสู้เอาชนะฝ่ายขบวนการที่อยู่ตรงข้ามได้อย่างมีผลเป็นรูปธรรมอย่างที่ใจต้องการ ในทางตรงข้ามยังมีคนในประเทศส่วนหนึ่งในทุกสาขาอาชีพที่ตกเป็นแนวร่วมมุมกลับ ให้ความเห็นที่เป็นอุปสรรค โดยกล่าวร้ายโจมตีความพยายามของรัฐในทุกรูปแบบ ซึ่งส่งผลให้พลังขับเคลื่อนการต่อสู้เพื่อนำสันติสุขกลับมายังพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ดูขาดพลังลงไปอย่างมาก การตกเป็นแนวร่วมมุมกลับในการหันมาโจมตีกล่าวร้ายกันเองของคนในกลุ่มต่างๆ มีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ อันเป็นการลดทอนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่รัฐลงไปอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น ทั้งที่ฝ่ายรัฐเองใช้ความพยายามอย่างมากในทุกวิถีทางเพื่อการนำสันติสุขกลับคืนมาสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายของรัฐอย่างเป็นธรรมภายใต้กติกาสากล การเร่งรัด ทุ่มเทงบประมาณของชาติ และใช้ความพยายามอย่างจริงจังในการพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การให้ความสำคัญเร่งด่วนในการพัฒนายกระดับคุณภาพมาตรฐานทางการศึกษาให้ทัดเทียมคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ
การเปิดโอกาสให้เป็นพื้นที่พิเศษในการรับคนในพื้นที่เข้ารับราชการในเกือบทุกสาขาอาชีพของรัฐ การให้การอมรับและเปิดกว้างในการเข้ารับราชการในการปกครองทุกระดับในพื้นที่อย่างเป็นพิเศษและมากกว่าคนไทยพุทธหรือคนนับถือศาสนาอื่นเสียอีก การให้โอกาสและเปิดกว้างในการรับฟังปัญหาและความต้องการของคนในพื้นที่พร้อมทั้งนำความต้องการเหล่านั้นไปดำเนินการเพื่อสนองตอบความต้องการเหล่านั้นอย่างเต็มกำลังของรัฐอย่างที่คนในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไม่ค่อยได้รับโอกาสพิเศษอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การให้โอกาสในการกลับคืนสู่อ้อมกอดของรัฐผ่านโครงการพาคนกลับบ้านที่มุ่งให้โอกาสใหม่ๆ กับพี่น้องประชาชนที่เคยหลงไปอยู่กับขบวนการก่อเหตุร้ายทำลายความเจริญให้กับคนในท้องถิ่น รวมทั้งการเปิดโอกาสให้เข้ามาวางวางอาวุธ ยุติการแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรง มาร่วมนั่งโต๊ะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันผ่านการดำเนินการตามแนวทางการพูดคุยสันติสุขเพื่อนำสันติภาพ และสันติสุขกลับคืนมาสู่คนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านๆ มาจวบจนปี 2563
จนถึงวันนี้ที่ก้าวแรกๆ ของปี 2564 ความสำเร็จในความพยายามดังที่กล่าวมาข้างต้น ยังไม่สมเจตนารมณ์ของพี่น้องคนไทยโดยทั่วไปเท่าที่ควร เพราะความพยายามในการขัดขวางหนทางไปสู่ความสำเร็จเพื่อสันติสุขในพื้นที่ของรัฐ โดยกลุ่มคนในขบวนการแบ่งแยกผู้คน ยังคงดำเนินต่อปอย่างไม่ลดละ แม้ว่าสภาพโดยทั่วไป จะดูประหนึ่งว่า ความสงบ สันติ ได้บังเกิดขึ้นแล้วกับคนในพื้นที่แห่งนี้ หากแต่แท้ที่จริงแล้ว ความสงบ ความสันติที่แลเห็น เป็นเพียงภาพลวงตา เป็นภาพฉากหนึ่งที่ฉาบไว้ให้บดบังความขัดแย้งและความรุนแรงทางความคิดที่ฝ่ายแกนนำขบวนการร้ายแห่งนี้มีความตั้งใจที่ต้องการให้เกิดขึ้น หากแต่ความรุนแรง ด้วยวิธีการที่รุนแรง เพื่อเรียกร้องความสนใจ และความรุนแรงทางความคิด เพื่อหล่อหลอมวิธีคิดของผู้คนเป้าหมายในพื้นที่ให้เห็นต่างจนถึงขั้นเกลียดชังคนในพื้นที่อื่นและมีความเชื่ออื่น แล้วสามารถประหัตประหารผู้คนเหล่านั้นได้อย่างไร้เหตุผล ล้วนเป็นความรุนแรงที่รังแต่จะสร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งยังส่งผลให้เหนี่ยวรั้งความยู่ดีมีสุขเฉกเช่นคนทั่วไปในพื้นที่อื่นๆ อย่างน่าเสียดาย
ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา รวมทั้งตลอดเวลาในปี 2563 ที่ผ่านมา ความรุนแรงดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น โดยอาจลดระดับความรุนแรงทางพฤติกรรมลงไปบ้าง เนื่องด้วยขบวนการร้ายแห่งนี้ อ่อนล้าลงไปมาก จากการรู้เท่าทันและการต่อสู้ด้านมวลชนในพื้นที่ รวมทั้งการจำกัดเสรีการปฏิบัติการรุนแรงของฝ่ายกองกำลังติดอาวุธนิยมความรุนแรง โดยฝ่ายความมั่นคงของรัฐอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น แต่กระนั้น ความรุนแรงทางความคิดและจิตวิญญาณของขบวนการสร้างความร้าวฉาน แตกต่างทางความคิดให้เกิดกับคนในพื้นที่ที่มุ่งกระทำให้เกิดกับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กลับทวีความเข้มข้นในการดำเนินการหรือการขับเคลื่อนมากขึ้นๆ และนั่นคือภัยคุกคามในที่มืดที่ฝ่ายขบวนการมุ่งประสงค์เวทีในการต่อสู้ใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งยังเป็นการเพิ่มความพร้อมมากขึ้นในการต่อสู้ทางความคิดกับใครก็ตามที่เป็นคนที่เห็นด้วยกับฝ่ายรัฐ สร้างกระแสเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้ในระดับนานาชาติบนเวทีโลกในทุกโอกาสที่อำนวย ระดมผู้คนให้พร้อมในการลงคะแนนเลือกตั้งหรือลงคะแนนในการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามต้องการในวิถีทางที่อ้างว่าเป็นการต่อสู้ในแนวทางสันติวิธี
อย่างไรก็ตาม การหันมาต่อสู้ในเวทีของการต่อสู้ทางความคิดดังกล่าวข้างต้นของฝ่ายขบวนการร้ายแห่งนี้ ก็เป็นแนวทางการต่อสู้ของฝ่ายรัฐเช่นเดียวกัน ที่รัฐต้องการให้ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวาน ยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ หยุดยั้งการใช้ความรุนแรงทางกายภาพทุกรูปแบบ แล้วหันมาต่อสู้ทางความคิดตามแนวทางการพูดคุยสันติภาพตามที่รัฐพยายามหยิบยื่นทางออกนี้ให้มาหลายปี เพื่อนำความคิดที่แตกต่างของแต่ละฝ่ายมาแสวงหาทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อย ก็ยังเหลือเพียงการต่อสู้ทางความคิดตามแนวทางสันติสุขที่ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง เข้มแข็ง ในปี 2564 ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายร่วมกันทุกฝ่าย