ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] ของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทย 15 ล้านคนจะได้รับกันทั่วหน้าจาก “โครงการคนละครึ่ง” ของกระทรวงการคลัง เป็นโครงการที่ได้รับประโยชน์จริงๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังเปรยว่าถ้ามีคนนิยมอาจจะเพิ่มให้อีกในเฟส 3-4 ต่อไปอีก นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรี นายสุภัทรพงษ์ ยังย้ำอีกว่าในปี 64 นี้ สถานะทางเศรษฐกิจดีขึ้นเป็นระยะๆจากโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล ซึ่งเพิ่มให้เป็นคนละ 3,500 บาท เป็นที่ขึ้นชื่อของพ่อค้าแม่ค้าระดับล่างที่มักจะบ่นกันเสมอว่าเศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่ได้ แต่ช่วงนี้มีโครงการดีๆเช่นนี้ทำให้ยอดการซื้อเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า อยากให้มีอีก ซึ่งรัฐบาลรับฟังและจะพิจารณาจัดเพิ่มให้อีก ในปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตถึง 4% จากโครงการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล พร้อมๆกับการลงทุนภาครัฐและเอกชนเป็นเงินถึงเกือบ 1 ล้านๆบาท โดยรัฐลงทุน 400,000 ล้าน ปตท.ลงทุนอีก 400,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนที่มีศักยภาพลงทุนอีก โดยเฉพาะบรรยากาศเอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากการที่โลกได้วิจัยและผลิตไวรัสต้านโควิด-19 เช่น อังกฤษ สหรัฐ และจีน คาดว่าไทยจะได้รับวัคซีนในกลางปี 64 ขึงเป็นข่าวดีของโลกที่ทำให้ประชาชนอุ่นใจและมีความหวังมากขึ้น แต่เป็นที่น่าเสียดายกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันต้องชะลอออกไปจากวันที่ 16 ธ.ค. 63 เพราะโรงแรมและร้านอาหาร 500 กว่าแห่งมีวิธีการและใช้กลวิธีโกงเงินของรัฐหลายรูปแบบ ทำให้ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารซึ่งอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น อาจต้องปิดตัวเองอีกหลายแห่ง เพราะกว่าจะกลับมาเป็นปกติต้องรอถึงปี 65 ข่าวเด่นมากๆสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย นอกจากจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้ว ไทยยังจะมีการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อมาแทนสถานีกลางแทน นั่นจึงเป็นศูนย์กลางการรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รถไฟฟ้าทุกสายจะถูกเชื่อมผ่านสถานีกลางบางซื่อยิ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดของไทยเรา คงจะทำให้เศรษฐกิจย่านบางซื่อผงกหัวเพิ่มรายได้กันเป็นกอบเป็นกำ และเป็นหน้าตาของประเทศในรัฐบาลพลเอกประยุทธ อีกด้วย ข่าวที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทย คือการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกของ Moody’s Investors Service(Moody’s) ที่จัดอันดับให้ไทยมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นจากระดับ “ความเสถียรภาพ” (Stable Outlook) เป็น “เชิงบวก” (Positive Outlook) เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี จากเหตุผลดังนี้ 1.มีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีแผนการลงทุน EEC ซึ่งส่งผลขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย 2. ความแข็งแกร่งทางการเงินต่างประเทศและภาคการคลังสาธารณะซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีประสิทธิภาพ 3.การดำเนินนโยบายทางการคลังและการเงินของรัฐบาลที่มีความโปร่งใสส่งผลให้หนี้รัฐบาลและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ 4.รัฐบาลได้บรรจุการลงทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 5. การแก้ไขปัญหาทักษะแรงงานและปัญหาสังคมผู้สูงอายุซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน จากการปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทย (Credit Rating) มาอยู่ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+นี่เองทำให้ไทยมีเครดิตระหว่างประเทศสูงขึ้น มั่นใจได้ว่ามุมมองนี้จะส่งผลดีกับประเทศไทยเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป