เสือตัวที่ 6 ปรากฏการณ์การออกมาเคลื่อนไหวของบรรดาน้องๆ เยาวชน นักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศเพื่อเรียกร้องการปกครองแบบประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพและรัฐธรรมนูญตามที่พวกเขาเชื่อถือในขณะนี้ นับเป็นสัญญาณอันทรงพลังที่กำลังบ่งบอกถึงความแตกต่างทางความคิด และความเชื่อของคนในแต่ละยุคสมัยที่เติบโตมาในห้วงเวลาที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่า เด็กและเยาวชนในยุคนี้ เติบโตมาท่ามกลางความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คนในยุคก่อนอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสมากมาย ใกล้ตัวเท่ายุคนี้ เด็กและเยาวชน รวมไปถึงคนรุ่นหนุ่มสาวในยุคนี้ มีความคิดและความเชื่อที่ก้าวหน้ากว่าคนในวัยกลางคนไปจนถึงวัยสูงอายุ เยาวชนในยุคนี้ เพราะพวกเขาสามารถเรียนรู้โลกกว้างผ่านโลกออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่มีขีดจำกัด วิธีคิดที่ผ่านออกมาจากการเขียนในโลกออนไลน์ในหลายช่องทาง ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโบราณอย่างโทรทัศน์ทั้งหลาย ได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เด็กและเยาวชน ตลอดจนคนรุ่นหนุ่มสาว มีความคิดเป็นเหตุ เป็นผล สามารถอธิบายตรรกะในความคิดและพฤติกรรมในการเรียกร้องทางการเมืองครั้งนี้อย่างคมคายยิ่ง การมองในมุมของผู้ใหญ่วัยกลางคนไปจนถึงวัยสูงอายุ จึงไม่อาจเข้าใจความคิดและการกระทำของเยาวชนคนกลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง การนำหลักเหตุและผลในมุมมองของคนยุคเก่า จึงไม่อาจเข้าถึงมโนสำนึก ทัศนคติของเยาวชนเหล่านั้นได้ และอาจนำไปสู่การสร้างความแปลกแยก แตกต่างของคนทั้งสองยุคมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่า สถานการณ์การเคลื่อนไหวของเด็กและเยาวชนที่มีต่อรัฐบาลในขณะนี้ คือการปะทะกันของคนต่างยุคที่เกิดและเติบโตมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากแต่ว่าความเห็นต่างของเด็กและเยาวชนตลอดจนคนวัยหนุ่มวัยสาวที่มีต่อคนวัยกลางคนไปถึงสูงอายุ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศเป็นไฟลามทุ่งอยู่ในขณะนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ส่งสัญญาณถึงความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อของคนสองกลุ่ม สองยุค ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยยังยืนอยู่บนแนวทางสันติวิธี เคลื่อนไหวเรียกร้องอย่างสงบที่ชัดเจนยิ่ง ในขณะเดียวกัน ความเห็นต่างที่ผ่านการเคลื่อนไหวของบรรดานักเรียน นักศึกษา เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ต่างมีแนวทางที่สอดรับกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนหัวรุนแรงติดอาวุธของขบวนการ การแสดงออกถึงความเห็นต่างของคนกลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ ล้วนมีวาระซ่อนเร้นอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่น การเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิการกำหนดใจตนเองของเยาวชนสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานีหรือ กลุ่มเปอร์มาส (PerMAS) มีเป้าประสงค์ชัดเจนในการแบ่งแยกการปกครองออกจากรัฐไทย การเคลื่อนไหวชองสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานีหรือ PerMAS ที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบัน มีท่าทีชัดเจนที่ต้องการประกาศให้แนวร่วมในพื้นที่รับรู้ถึงจุดยืนในการเดินหน้าขับเคลื่อนในเรื่อง การกำหนดใจตนเอง ( Right to Self Determination - RSD) ที่มีเป้าหมายคือ "เอกราช" หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นเขตปกครองพิเศษในอนาคต อีกทั้งยังมีความเกี่ยวโยงงานการเมืองหนุนสร้างพรรคมลายูมุสลิมให้เป็นตัวแทนของคน จชต. อย่างแท้จริง การโฆษณาชวนเชื่อมีการปลุกกระแสมวลชนโดยใช้ Right to Self Determination - RSD เป็นตัวล่อให้เกิดความหวังอย่างเลื่อนลอยเพื่อให้เยาวชนเข้าเป็นแนวร่วมขบวนการในการต่อสู้กับรัฐในทุกวิถีทาง แม้จะต้องใช้วิธีความรุนแรงเป็นตัวขับเคลื่อนพลังการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น อีกทั้งต้องการสื่อไปถึงองค์การระหว่างประเทศให้เห็นว่า ในพื้นที่นี้ ยังมีความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างรัฐผู้ปกครองกับคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งของสิทธิการกำหนดใจตนเอง ( Right to Self Determination - RSD) ว่าพวกเขามีสิทธิในการตัดสินใจกันเองของคนในพื้นที่ว่า จะเลือกอยู่กันอย่างไร ซี่งการกำหนดใจตนเองในประเทศไทยนั้น ยังก้าวไปไม่ถึงขั้นที่องค์กรระหว่างประเทศ จะยื่นมือเข้ามาบังคับให้เกิดสันติภาพ แต่กลุ่ม PerMAS ยังเดินหน้าใช้การเรียกร้องจากความเห็นต่างกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะความเห็นต่างกับรัฐ เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการเดินหน้าไปสู่เอกราชของคนในพื้นที่โดยมีขบวนการร้ายในพื้นที่เป็นหัวจักรสำคัญตลอดมา โดยการขับเคลื่อนส่งผ่านความเห็นต่างกับรัฐ และการสร้างความเห็นต่างกับรัฐให้เกิดขึ้นในเด็กและเยาวชนตนหนุ่มสาวในพื้นที่ ในปัจจุบันด้วยการใช้สื่อสังคมออนไลน์โจมตี แบบที่เรียกกันว่า IO เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐในทุกรูปแบบ รวมทั้งข้อกฎหมายไทยและกฎหมายพิเศษใน จชต. โดยเฉพาะการสร้างวาทกรรมในการปราบปรามกองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรงของขบวนการ จนเป็นเหตุวิสามัญฆาตกรรมกองโจรติดอาวุธหลายครั้งหลายหน ให้สังคมในพื้นที่เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐตลอดมา รวมทั้งเหตุฆ่ากันตายรายวันมีการโยนผิดว่าเป็น "ทีมงูเต๊ะ" ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐออกล่าทำร้ายประชาชน นั่นคือยุทธศาสตร์และแนวทางที่กลุ่ม PerMAS พยายามขับเคลื่อนหาแนวร่วมในพื้นที่ เพื่อเดินไปสู่จุดหมายโดยใช้ RSD แต่ในขณะเดียวกันบรรดาแกนนำและสมาชิก PerMAS ในเบื้องลึกกลับมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อย่างแยกกันไม่ออก ยกตัวอย่างเช่น ในอดีตที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ยะลา สมาชิก PerMAS กลับเป็นผู้ลงมือทำการก่อเหตุลอบระเบิดทำร้ายประชาชน ในขณะที่เด็กและเยาวชนในนาม สนนท. ปลดแอกเผด็จการ ขยายแนวร่วมไปสู่ประชาชนปลดแอกที่กำลังลุกลามไปทั่วประเทศในเวลานี้ เป็นการเคลื่อนไหวที่มีเจตนาอันบริสุทธิ์ บนพื้นฐานตามแนวทางสันติวิธี ที่เรียกร้องผู้มีอำนาจรัฐ ให้เห็นถึงความต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามแนวทางที่พวกเชื่อ เพราะเด็กและเยาวชนกลุ่มบริสุทธิ์นี้ เห็นว่า อนาคตของพวกเขาควรอยู่ในมือของพวกเขา โดยการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงตามวิถีทางประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยึดถือ ซึ่งนั่น คือความแตกต่างของเยาวชนสองกลุ่มนี้อย่างเห็นได้ชัด