แสงไทย เค้าภูไทย
คนจีนไล่ซื้อมหาวิทยาลัยไทย เปลี่ยนหลักสูตรเป็นภาษาจีน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตัดทางรถไฟความเร็วสูงแผ่ลงมาทางใต้ไปจรดแหลมมลายู ลงทุนด้านเกษตรนับพันๆไร่ จีนอพยพรุ่นเหลนจะทำไทยเป็นขุมทองส่งเงินกลับบ้านอีกระลอก
รุ่นเสื่อผืนหมอนใบ คนจีนในไทยส่งเงินที่ทำมาหาได้กลับไปให้ลูกเมียทางบ้านผ่านระบบโอนเงินโพยก๊วน แต่สมัยนี้ส่งผ่านระบบดิจิทัล
รอบบ้านเรา ยามนี้คนจีนเข้ามาอยู่กันหนาตาผิดสังเกต เช่นเดียวกันกับในภูมิภาคอื่นๆ
จำนวนคนจีนในแต่ละประเทศตัวเลขล่าสุด เกาหลีใต้ 1.05 ล้านคน เปรู 1.30 ล้าน ฟิลิปปินส์ 35 ล้านคน แคนาดา 1.49 ล้าน พม่า 1.64 ล้านคน สิงคโปร์ 2.55 ล้านคน อินโดนีเซีย 2.83 ล้านคน สหรัฐ 4.95 ล้านคน มาเลเซีย 6.65 ล้านคน ไทย 9.39 ล้านคน ลาวแม้จะแค่ 250,000 คนแต่ก็เป็นถึง 2% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
จีนได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์เข้ามาไทยในสภาพยากจนมาเป็นกุลีตามเหมืองดีบุก มาแบกข้าวสาร มารับจ้างถ่อเรือ ฯลฯ เท่านั้น
แต่กลับก่อร่างสร้างตัวจนกลายเป็นผู้กุมเศรษฐกิจของชาติในวันนี้
ดูได้จากคนรวย 20 คนที่นายกฯขอร้องให้มาช่วยเหลือคนไทยในยามวิกฤติโควิด-19 ว่ามีใครบ้างที่ไม่มีเชื้อสายจีน?
แต่แม้จะมีเชื้อสายจีน ทว่าคนรุ่นนี้ ก็เป็นลำดับหลาน เหลนโหลนของจีนอพยพรุ่นเสื่อผืนหมอนใบทั้งนั้น
จึงมีความเป็นคนไทยกันไปหมด และมีความกังวลกับจีนอพยพรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับทุนหรือเป็นนายทุน
จีนเชื้อไทยรุ่นเก่า จะต้านทุนจีนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเพื่อกอบโกยได้ขนาดไหน ?
ทุนจีนย่องเงียบเข้ามาทางเหนือนานแล้ว เริ่มจากตัดทางจากยูนนานมาบ่อเต็นและห้วยทรายของลาว โดยสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่บ่อเต็น สามารถระบายสินค้ามาสู่ภาคเหนือตอนบนของไทยได้สะดวก
อีกด้านหนึ่ง เข้ามาทางใต้ของลาว จ่อข้ามมาไทยที่หนองคาย ซึ่งขณะนี้ไทยกำลังจะเริ่มก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯไปบรรจบ โดยเริ่มเฟสแรก กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เงินกู้จากจีน 50,633.50 ล้านบาท
นอกจากสินค้าจากจีนยูนนานแล้ว ในภาคเกษตร ทุนจีนยังเข้ามาปลูกผลไม้ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนจีนส่งกลับไปขายจีน เริ่มที่กล้วยหอมในพื้นที่กว่าพันไร่ที่ ต.เม็งราย เชียงราย
ต่อไปน่าจะเป็นทุเรียน มังคุดและผักผลไม้ที่ชาวจีนนิยมอันเป็นสินค้าที่เคยเป็นรายได้หล่อเลี้ยงชาวสวนและผู้ส่งออกไทย
อีกด้านหนึ่งที่กังวลกันมากกับทุนจีนครอบงำไทยก็คือการเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ขณะนี้มีข่าวไม่สู้ดีจากวงการอสังหาริมทรัพย์ว่า ใกล้จะเกิดภาวะฟองสบู่แตกเต็มที
เหตุจากกำลังซื้อถดถอยต่อเนื่องทำให้เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายที่ก่อตัวเงียบๆมา 2 ปีแล้ว
การสร้างดีมานด์ลวงด้วยการขายใบจอง ให้นักเก็งกำไรจนมากล้นพ้นตัว กับพวกซื้อไปปล่อยเช่า โดยเฉพาะแก่ทัวร์จีนหรือคนจีนที่มาพำนักในไทย
ภาวะซบเซา มากระทบด้วยโควิด-19 ทำให้ ทั้งสองกลุ่มนี้แบกรับดอกเบี้ยไม่ไหว ปล่อยไม่ออก ฟองสบู่แตกเมื่อใด พังกันป็นลูกระนาดเมื่อนั้น
แต่ก็อาจจะเป็นจังหวะดีที่ไวรัสที่ระบาดในจีนเริ่มคลี่คลาย แม้จะยังมีระลอกที่ 2 แต่ก็น่าจะเอาอยู่ คนจีนจะออกนอกประเทศอีกครั้ง
ไทยเป็นดินแดนเป้าหมายอันโอชะที่สุดของนักลงทุนจีน ไม่ว่าจะเป็นในนิคมเอุตสาหกรรมอีอีซี ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริการ จนถึงอสังหาริมทรัพย์
ขณะนี้มีสิ่งปลูกสร้างโอเวอร์ซัพพลายค้างกว่า 60,000 ยูนิต มูลค่ากว่าแสนล้านบาท
ถ้านักลงทุนจีนจะมาซื้อ ก็คงจะราคาต่ำกว่าที่ตั้งขาย 30-40% หรืออาจถึง 50% เพราะนักลงทุนจีนที่มานี้ ล้วนแต่เขี้ยวลากดิน ต่อรองเก่ง รู้ว่าคนไทยไม่มีทางเลือก ต้องยอมขายตามราคาของคนซื้อ
ใช่แต่ไทยเท่านั้น แม้แต่อเมริกายังโดน ช่วงนี้เป็นวิกฤติการณ์น้ำมันดิบล้นตลาดโลก บริษัทสำรวจขุดเจาะน้ำมันแหล่งหินเชลล์ของสหรัฐฯล้มละลายกันเป็นแถว
ทุนจีนย่องเงียบไปซื้อกิจการแหล่งน้ำมันดิบในเท็กซัสกันคึกคักจนรัฐบาลมลรัฐต้องลงมาดูแลห้ามซื้อขายกิจการที่ถือเป็นความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเป็นการด่วน
ใกล้ๆบ้านเรา กิจการค้าในลาวก็เหมือนจีนในไทย คนจีนกุมเศรษฐกิจไว้กว่า 90 %
กัมพูชาก็เช่นกัน สีหนุวิลล์ และพนมเปญเป็นแหล่งลงทุนหนาแน่นของจีน มีการตั้งบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ดึงดูดนักพนันจากจีนและเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจากไทยไปเยือนกันขวักไขว่ทุกช่วงวันหยุด
ย่านธุรกิจเกิดใหม่ บ่อนพนัน โรงแรมและศูนย์บันเทิง ในสีหนุวิลล์กว่า 90% เป็นของทุนจีน ทั้งเข้าไปลงทุนและนำคนจีนมาพัก มาประกอบอาชีพ จนได้ชื่อว่่า "มินิไชน่า"
สีหนุวิลล์กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวระดับล่างโดยเฉพาะ"แบ็กแพ็กเกอร์"และ"ทัวร์ศูนย์เหรียญ" เช่นเดียวกันกับไทย
มาเก๊าถูกลืมเมื่อสีหนุวิลล์มีทุกอย่างที่เเหมือนคล้าย แม้แต่ค่าต๋งก็ถูกกว่า โดยมาเก๊าคิด 38-39% แต่ที่นี่แค่ 4-5% เท่านั้น
แม้รัฐบาลจีนจะควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินหยวน แต่ที่นี่ทางเจ้าของกิจการชาวจีนมีทางออกให้ โดยผู้มาใช้บริการสามารถยืมเงินได้จากเอเย่นต์ทัวร์หรือตัวแทนส่งผ่านเงินแบบโพยก๊วนที่ปัจจุบันใช้เทคโนโลยีออนไลน์เป็นกลไกจ่ายโอน
บิทคอยน์และเงินคริปโตเป็นช่องโหว่สำหรับการยักย้ายถ่านเทเงินตราข้ามประเทศ
นักธุรกิจนายทุนจีนใช้ในการให้บริการแก่ลูกค้าชาวจีนและต่างด้าว โดยแยบยล
นี่คือโพยก๊วนยุคใหม่ ที่ปีหนึ่งๆเงินไหลออกจากประเทศที่คนจีนไปอยู่อาศัย ทำงานและลงทุนส่งกลับบ้านนับแสนๆล้านบาท
พวกเรารู้สึกตัวกันบ้างไหม ?