ปัญหาการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่ "ล่มไม่เป็นท่า" เมื่อวันที่ 20 ก.ค.63ที่ผ่านมา กำลังกลายเป็นความจงใจที่จะส่งสัญญาณจาก "กลุ่มก๊วนการเมือง"ในพรรคพลังประชารัฐ ไปถึง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะตัดสินใจ "ปรับครม." รอบนี้อย่างไร ? เหตุที่การประชุมคณะกรรมาธิการงบฯ ล่ม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ จน วราเทพ รัตนากร รองประธานกรรมาธิการคนที่ 3 ซึ่งทำหน้าที่ประธานได้สั่งปิดการประชุม โดยในการประชุมที่เกิดปัญหา มีกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล คือจากพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และส.ส.ซีกฝ่ายค้าน ที่มีพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล เสรีรวมไทย พากันวอล์คเอ้าท์ ไม่เข้าประชุม สิ่งที่สะท้อนออกมาเบื้องลึกเบื้องหลังขององค์ประชุมไม่ครบ กำลังถูกเชื่อมโยงไปถึงการตั้งข้อสังเกตเรื่องการปรับครม. ภายใต้อำนาจของ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะสามารถตัดสินใจได้เบ็ดเสร็จ จริงหรือไม่ เพราะบัดนี้ บรรดา ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์เองต่างพากันโดดเดี่ยว กรรมาธิการพรรคพลังประชารัฐ อย่างจงใจ " คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากภายในของรัฐบาลเองเพราะกรรมาธิการในซีกฝ่ายค้านพรรคทั้งหมดอยู่ครบ ซึ่งนายวราเทพ บอกว่าเคยเป็นประธาน และรองประธานในการพิจารณางบมาหลายสมัยไม่เคยมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่อยู่กรรมาธิการในซีกรัฐบาลเสนอนับองค์ประชุม และซีกรัฐบาลพากันเดินออกหมด เรียกได้ว่าโดดเดี่ยวพลังประชารัฐ แสดงว่ารัฐบาลมีปัญหากันเอง" ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษก กรรมาธิการฯ ปัญหาที่เกิดขึ้นที่กรรมาธิการงบประมาณฯ ครั้งนี้ ส่งแรงกดดันไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ ว่านี่คือสัญญาณที่ "ไม่ปกติ" ว่านายกฯไม่ควรละเลย และวางใจ "เกมในสภาฯ" ว่าทุกอย่างจะอยู่ในความเรียบร้อย เพราะฐานที่มั่นในเวทีนิติบัญญัติคือสิ่งสำคัญที่จะค้ำยัน รัฐบาล ให้เกิดความมั่นใจแล้วเดินหน้าทำงานในฐานะ "ฝ่ายบริหาร" โดยไม่ต้องละล้า ละลัง " เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้อง พรรคการเมือง และทุกฝ่ายต้องหารือร่วมกันว่าปัญหาเกิดจากตรงไหนอย่างไร หาทางออกร่วมกันให้ได้ ถ้าไม่คุยกันก็ตกลงไม่ได้ ก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ จะเดินหน้าประเทศไปไม่ได้ จะมีปัญหาต่อการจัดทำงบประมาณ ซึ่งการจัดทำงบประมาณปี 2564 เป็นเรื่องสำคัญ" ยิ่งในเวลานี้การปรับครม. ในส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่จะมาแทน "กลุ่ม4กุมาร" แทนที่จะเป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาลเพียงคนเดียว ก็กลับมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มสามมิตร ที่พยายามดึงดันเดินหน้าสนับสนุน "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม ให้ย้ายไปนั่ง "รมว.พลังงาน" โดยอ้างว่าเป็น "สัญญาใจ"มาตั้งแต่แรกเมื่อคราวตั้งรัฐบาล "ประยุทธ์2/1" แต่ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศสวนทันควันว่าไม่เคยมีสัญญาใจกับใคร ! ความไม่นิ่ง ความไม่ลงตัวของการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี "ประยุทธ์ 2/2" กำลังกลายเป็น "ช่องโหว่" ที่สร้างแรงกดดัน ต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ว่าอย่ามองข้าม "เกมในสภาฯ"ว่าพร้อมจะผันผวนได้ทุกเมื่อ เพื่อแสดงพลัง แสดงตัวตน ของกลุ่มก๊วนการเมืองในพลังประชารัฐ ว่าไม่ได้เซย์เยส ไปทุกเรื่อง !