ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการออกมาเอ่ยปาก "ขอโทษประชาชน" เมื่อรัฐบาลเป็นฝ่ายที่ "การ์ดตก"เสียเอง ! "ผมในฐานะ ผอ. ศบค. ขอรับผิดชอบตรงนี้ สิ่งสำคัญต้องหาวิธีการปิดจุดที่หละหลวมเหล่านี้"
"บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงข่าวขอโทษพี่น้องประชาชน ภายหลังจากที่เกิดกรณี "ทหารอียิปต์" ติดเชื้อโควิด-19 และออกไปในพื้นที่ภายนอกโรงแรมที่พัก ที่จังหวัดระยอง จนทำให้ชาวระยอง ตื่นตระหนกไปตามๆกัน
รวมทั้งยังมีกรณีครอบครัวทูตซูดานเข้าพักคอนโดส่วนตัวใน กทม. ซึ่งมีเด็กหญิงวัย 9ขวบติดโควิด โดยทั้ง 2 กรณีนี้ไม่ถูกกักตัว 14 วัน ตามมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลและ ศบค.
จากทั้งสองกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาล และกองทัพถูกโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากทั้งสองกรณี ล้วนแล้วแต่เป็น "ชาวต่างชาติ" ที่ไม่ถูกกักตัว และยังกลายเป็นคนที่เอาเชื้อโควิดเข้ามาสู่ประเทศไทย ขณะที่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา คนไทยเองต่างให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด อีกทั้งที่ผ่านมา ทั้งนายกฯและศบค.เองเน้นย้ำกับประชาชนคนไทย "การ์ดอย่าตก" !
แน่นอนว่าเมื่อรัฐบาล เป็นฝ่าย "พลาด" การ์ดตกเสียเอง การดึงดัน หรือใช้วิธีการแข็งกร้าวตอบโต้ กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ย่อมไม่ใช่ "ทางออก" เพราะมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง เลวร้ายลงไปไม่สิ้นสุด หากมองกลับไปตลอดทั้งคืนวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวโจมตีทั้งรัฐบาล และ "กองทัพ" กันอย่างรุนแรง ว่าการเข้ามาของกลุ่มทหารอียิปต์ที่มีหลายสิบนายนั้น กองทัพรับรู้หรือไม่
อย่างไรก็ดี กลับมาความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เองที่จากนี้ไปจะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหา ทั้งการทบทวนมาตรการต่างๆ การผ่อนคลายให้กับบรรดาสถานฑูต เอกอัครราชฑูตต้องปฏิบัติตามระบบระเบียบทุกปราการ และที่สำคัญนายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้แจ้งทุกสถานฑูตระงับทุกเที่ยวบินทั้งหมด จนกว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาดังกล่าวได้
" ทุกปัญหามีความสำเร็จและมีส่วนที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นมาตรการ สาธารณสุขของเรา ถ้ามองว่าจะเลวร้ายหรือไม่ดี ทำนองนี้ก็ขอให้เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของเรา น่าจะรองรับได้ แต่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น อันนี้เป็นสิ่งที่ผมเสียใจ
ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยด้วย จะต้องมาดูแลกันให้มากที่สุดในหลายประเด็น ซึ่งหลายปัญหาเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด อาจเกิดข้อบกพร่องบางประการ ในหลายที่ ซึ่งผมได้ย้ำในที่ประชุมครม. และให้ศบค.แก้ไขทบทวนทุกอย่างโดยเฉพาะมาตรการ ในการผ่อนคลายต่างๆ เพราะกระทบไปถึงเรื่องความเชื่อมั่น ความปลอดภัยของประชาชนโดยรวม ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น จะต้องดำเนินการให้ดีที่สุด และรับว่าจะดำเนินการให้ดีที่สุด ขอเวลาให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และศบค. ได้แก้ปัญหา" ( 14ก.ค.63)
เมื่อการแก้ปัญหากำลังเดินไปข้างหน้า แต่ในระหว่างทาง ใช่ว่ารัฐบาล จะไม่ต้องตอบคำถาม เรื่องราวทางการเมือง โดยเฉพาะการตัดสินใจต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปหรือไม่ เมื่อครบกำหนด 1เดือนในช่วงสิ้นเดือนก.ค.นี้ โดยเฉพาะฝ่ายต่อต้านพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านกันถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล อาจจะใช้โอกาสนี้ "ขยายความ"โจมตีรัฐบาล ว่าจ้องจะฉวยจังหวัดต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อต่อวีซ่าอำนาจ ไม่รู้จบ !