ทีมข่าวคิดลึก
คะแนนนิยมที่ประชาชนมีต่อตัว"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูเหมือนว่าในความเป็นจริงแล้วมีความโดดเด่นและชัดเจน ก่อนที่จะถูกชี้วัดจากโพลสำนักต่างๆ ล่าสุดด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ใครพอใจหรือไม่ก็ตาม แต่เวลานี้คะแนนความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะมีผลเกิดขึ้นในหลายทาง !
ก่อนหน้าที่จะถึงวันออกเสียงประชามติทั้ง "ร่างรัฐธรรมนูญ" และ"คำถามพ่วง" เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา หลายคนประเมินว่าที่สุดแล้วคสช. อาจจะต้องเป็นฝ่าย "พ่ายแพ้"เพราะโอกาสที่ร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงเจ้าปัญหาจะผ่านความเห็นชอบจากประชาชนที่มีสิทธิออกเสียง50 กว่าล้านคนนั้นดูจะยากเต็มที
ถึงกับมีเสียงเรียกร้องจากการเมืองฝ่ายตรงข้าม ให้ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมหาคำตอบและแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง หากร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงไม่ผ่านประชามติขึ้นมา ถึงขั้นยกการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ "เดวิด คาเมรอน" ประกาศจะลาออกจากตำ แหน่งหลังผลการลงประชามติออกมาว่า ฝ่าย Brexit สนับสนุนให้สหราชอาณาจักร(ยูเค) แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู)เป็นฝ่ายชนะ เหนือฝ่ายต้องการให้อยู่ต่อ
แต่แล้วจากวันก่อนออกเสียงประชามติ จนถึงวันนี้ ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.จะไม่มีอาการหวั่นไหวเท่านั้น ทว่าคะแนนความนิยมยังพุ่งสูงอย่างเห็นได้ชัดและว่ากันว่าด้วยคะแนนความนิยมของตัว พล.อ.ประยุทธ์ นี่เองที่เป็นตัวอุ้มคะแนนทั้ง ครม. ไม่ให้ร่วงรูดไปมากกว่าที่เป็นอยู่
อย่างไรก็ดี เงื่อนไขและปัจจัยที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ยังปักหลักอยู่บนความเชื่อมั่นได้อยู่ แม้ล่าสุดจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้น 3 วัน เมื่อวันที่ 10-12 สิงหาคม ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน รวมทั้งการที่ประชามติสามารถผ่านฉลุย โดยไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นนั้น ย่อมมาจากการที่คสช.เองได้ตระเตรียมความพร้อมเพื่อผลักดันให้ประชามติผ่านได้อย่างราบรื่นมาตั้งแต่ "ต้นมือ" โดยผ่านทุกกลไกที่มีอยู่ในมือ
เวลานี้แม้จะยังอยู่ในระหว่างที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ภายในกรอบเวลา30 วันได้เผชิญหน้ากับแรงกดดันระลอกใหม่จาก "ฝ่ายการเมือง" อีกครั้งเมื่อคำถามพ่วงได้กลายเป็น "โจทย์ใหม่"โจทย์ใหญ่ที่ฝ่ายการเมืองไม่อาจยอมรับได้ เพราะเท่ากับเป็นใช้ "250 ส.ว."เป็นผู้เปิดประตูให้กับ "นายกรัฐมนตรีคนนอก" ที่ไม่ใช่ "นักการเมือง" ที่อุตส่าห์ฝ่าฟันสังเวียนเลือกตั้งกันเข้ามา !
แม้วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะพยายามเตือนสติให้นักการเมือง ประชาชนอย่าเพิ่งหวั่นไหวกับ "ผู้ที่มองไม่เห็น"เพราะยังไม่มีใครรู้ว่า "คนนอก" ที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ คนที่ 30 นั้น จะเป็นใคร แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ ฝ่ายการเมืองไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป
ยิ่งเมื่อนับวันคะแนนความนิยมที่ประชาชนมีต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์แจ่มชัดมากเท่าใด ยิ่งเมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์ เฟ้นหา "คุณสมบัติ" ของผู้นำที่มีธรรมาภิบาล มากกว่าที่จะโฟกัสกันไปถึงเรื่อง "ที่มา" มากเท่าใดยิ่งทำให้ นักการเมือง นักเลือกตั้ง และกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ยิ่งหวั่นไหวและหวาดกลัว "ผีที่มองไม่เห็น" มากเท่านั้น !