ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย การที่พรรคพลังประชารัฐช่วยกันลุ้นให้บิ๊กป้อม นั่งหัวหน้าพรรคอย่างสง่างาม พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคอีก 29 คน ปัดทิ้ง 4 กุมาร อย่างไม่ใยดี ทั้งนี้อ้างว่าเพื่อความกลมเกลียวของคนในพรรค และร่วมกันสร้างประเทศชาติ ช่วยเหลือประชาชน การคาดเดาของการเกิดพรรคพลังประชารัฐ เกิดจากการแตกตัวของ คสช. เตรียมตั้งพรรคเพื่อยึดโยงเอาพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง และที่คาดเดากันคงอาจไม่ผิดว่าหัวหน้าพรรคตัวจริงหรือเจ้าของพรรคตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังพรรคมาตลอดคือบิ๊กป้อมนั่นเอง ปฏิเสธไม่ได้ว่า คสช. ออกมาเล่นการเมืองอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีพลังประชารัฐเป็นแกนนำ โดยมีสมาชิกของไทยรักไทยออกมาร่วมทีมกันมากหน้าหลายตา หากจะมองว่าเพราะเขาเหล่านั้นทราบดีว่าไทยรักไทยมีเป้าหมายอย่างไร หรือเห็นว่าพลังประชารัฐจะมีโอกาสมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นพรรคการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยก็ตาม แต่เชื่อว่ายังมีเสือหิวปะปนอยู่กับพลังประชารัฐอยู่ จากนี้ไปคงได้เห็นการปรับ ค.ร.ม. โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะออกมาจากพลังประชารัฐว่าจะเสนอใคร เชื่อว่าคงไม่ใช่คนของพลังประชารัฐ เพราะชื่อชั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับว่าจะนำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง หรือเปลี่ยนแปลงได้เร็ว โดยเฉพาะจะต้องรีบเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เข้าที่เข้าทางก่อน งานแรกของรัฐบาลคือการเสนอ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 เข้าสู่การพิจารณาของ ส.ส. ที่มีสิ่งที่ฝ่ายค้านจ้องเล่นงานเพื่อปรับลดงบประมาณกันอยู่ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และบางกระทรวงงใน 10 อันดับแรกที่มีงบประมาณสูงสุดให้ ส.ส. ได้ชำแหละกันก่อน ซึ่งถึงอย่างไรก็คงผ่านงบปี 64 ไปได้ เรื่องต่อมาคงจับตาดูเงินกู้ 4 แสนล้าน กรรมาธิการคงตามติด แต่ที่ดูจากหลักการที่คณะกรรมการกลั่นกรองงวดแรก 1 แสนล้าน ที่จะนำเสนอค.ร.ม. อนุมัติก่อนคงไม่มีที่ติ เพราะล้วนแล้วแต่เข้าข่ายการสร้างงาน สร้างอาชีพ และความยั่งยืนเข้าสู่ชุมชนทั้งสิ้น โดยการทำถนน ขุดคลอง ฯลฯ ไม่มีสักโครงการเดียว เพียงแต่โครงการจะสามารถทำได้ดีเพียงใดเท่านั้น การประเมินผลทุก 3 เดือนจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากได้ชัดเจนค่อนข้างแน่ แม้ว่า SMEs ประเภทไมโครไฟแนนซ์ที่มีอยู่มากยังขาดที่พึ่งพาก็ตาม ลุ้นต่อไปกับการเปิดเฟส 5 ของรัฐบาลที่เปิดออกมากับ New Normal มีเกณฑ์ต่างๆค่อนข้างจะรัดกุม ส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นหลายแสนคน แต่ในธุรกิจที่ต้องการแรงงานมากในอนาคต รัฐต้องสร้างเสริมให้เกิด เช่น -ธุรกิจไอที -ธุรกิจการผลิต -ธุรกิจขายส่ง ค้าปลีก -ธุรกิจด้านการเงิน -ธุรกิจโฆษณา -การตลาดและประชาสัมพันธ์ -ธุรกิจโลจิสติกส์ -ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ -ธุรกิจจัดจำหน่าย -ธุรกิจประกันภัย น้องๆที่กำลังเข้าสู่ภาคการศึกษาแรกของอุดมศึกษา คงต้องเลือกสาขาที่เหมาะกับงานเหล่านั้น เพราะอีก 5 ปี เชื่อว่างานเหล่านั้นจะเพิ่มมากขึ้น ภาคการศึกษาคงต้องปรับหลักสูตรให้ตรงกับสาขาของงาน โดยร่วมกับสถานประกอบการให้มากขึ้น อีกไม่นานคงได้เห็นทีมเศรษฐกิจใหม่มาแทนชุด 4 กุมาร ที่หันหลังให้พลังประชารัฐ คาดว่าน่าจะออกไปตั้งตัว เตรียมทีมงานในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะล้วนแล้วแต่คนดี มีฝีมือ เพียงแต่ไม่มีสมาชิกพรรคไว้คอยสนับสนุนเท่านั้น ออกมาก่อนเถอะครับ อย่ารอให้เขาปลดหรือไล่ออกเสียก่อน เศรษฐกิจเที่ยวนี้รุนแรงกว่าต้มยำกุ้ง ส่งออกติดลบ 27% ยังดี 5 เดือนแรกได้ดุลเล็กน้อย เศรษฐกิจโลกก็ติดลบกันหมด ถือว่าเรื่องใหญ่มากในรอบ 130 เดือน ท่องเที่ยวไทยก็ทรุด เงิน 5,000 บาทก็คงจะหมดไป เริ่มเป็นหนี้สินกันแล้ว เศรษฐกิจไทยคาดว่าอาจถึง -8.1% นับว่าหนักหนาสาหัสสำหรับโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับทีมเศรษฐกิจใหม่ น่าหนักใจแทน