เมื่อจังหวะเปิด เมื่อลูกกลิ้งมาเข้าเท้า เข้าทางอย่างนี้มีหรือที่ "ฝ่ายตรงข้าม" กับ "รัฐบาล" และ "พรรคพลังประชารัฐ" อย่าง "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีตสว.จะไม่ใช้โอกาสนี้ เปิดเกมรุกทั้ง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำรัฐบาล และ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ด้วยความแหลมคมทางกฎหมาย !
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ความเคลื่อนไหวของ เรืองไกร พุ่งเป้าไปที่ "ตัวละครสำคัญ" อย่าง "เสธ.อ้น" พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา สมาชิกวุฒิสภา ว่ามีพฤติการณ์แทรกแซงกิจการภายในพรรคพลังประชารัฐ จะเข้าข่ายกระทำการผิดข้อกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุเอาไว้ชัดเจน
และจากการกระทำของเสธ.อ้น ยังจะกลายเป็น "ใบเบิกทาง"เพื่อนำไปสู่ "การยุบพรรคพลังประชารัฐ" ตามมา
หมายความว่า หากสิ่งที่เรืองไกร ร้องให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบได้ว่า สมาชิกวุฒิสภา เข้าไปมีส่วนแทรกแซงทางการเมือง ในพรรคพลังประชารัฐ โอกาสที่จะเกิดปรากฎการณ์ "ตายยกรัง" จะเกิดขึ้นตามมาด้วยใช่หรือไม่ ?
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้จะพบว่า จากปัญหา "ศึกใน" ของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีกลุ่มก๊วน ของ "สุชาติ ชมกลิ่น" ประธานส.ส.ของพรรค จับมือกับ "วิรัช รัตนเศรษฐ" ประธานวิปรัฐบาล ผนึกกำลังกับ "เสธ.อ." ซึ่งต่อมาภายหลัง ปรากฎชัดเจนว่า หมายถึง "เสธ.อ้น" พล.อ.พล.อ.กนิษฐ์ ที่ประสานพลังออกแรง "เขย่า" ไล่ขย่ม "แก๊งค์สามกุมาร" โดยมีเป้าหมายกดดันให้ "อุตตม สาวนายน" รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรค และ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" รมว.พลังงาน ในฐานะ เลขาธิการพรรค ลาออกจากตำแหน่งใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ
ภายใต้ข้อหา ไม่ดูแลทุกข์ สุขของส.ส. ขณะที่ส.ส.ของพรรคเองต้องลงไปเกาะพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่กำลังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ที่กระทบทั้งต่อชีวิตความเป็นอยู่ ไปจนถึงปัญหาปากท้อง
ระหว่างที่เกมกดดันภายในพรรคพลังประชารัฐ กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เกิดการให้ข่าวผ่านสื่อ ตอบโต้กันไปมา ทั้งฝ่ายที่กดดันและฝ่ายที่เปิดฉากโต้คืน แต่ขณะเดียวกันสำหรับ "คนนอก" แล้วกลับมองเห็น "ช่องโหว่" ที่จะสามารถแปรเปลี่ยนไปสู่มูลเหตุที่ใช้ในการร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐได้ในที่สุด เนื่องจากอาจเข้าข่ายขัดต่อพ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560
จนเป็นที่มาว่า เรืองไกร ฟากตรงข้ามกับพรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าการที่ "ลูกน้อง" อย่าง เสธ.อ้น มีความสัมพันธ์อันดีกับ "นาย" ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่สมัยรับราชการทหาร อยู่ ร.21 ต่อมาจึงมาช่วยงานพล.อ.ประวิตร
และยังต้องไม่ลืมว่าในความเป็นจริงแล้ว ปมประเด็นที่ว่าด้วยปัญหาของส.ว.ชุดปัจจุบันนั้นยังเคยถูกตั้งคำถาม มาแล้วตั้งแต่เมื่อครั้งที่ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ"หรือ คสช. ของพล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร "ทำคลอด" ส.ว.ชุดนี้เพื่อผลประโยชน์ในทางการเมือง ในวันข้างหน้าหรือไม่
ที่สุดแล้ววันนี้ ทั้งปัญหาเก่าเมื่อครั้งที่มีคสช.ได้วนมาทับซ้อนกับเกมการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มี "เสธ.อ้น" สมาชิกวุฒิสภา เป็น "จิ๊กซอร์" ที่ฝ่ายตรงข้าม นำไปใช้หาประโยชน์ เปิดเกมไปสู่การร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ ได้อย่างที่เห็น !