เมื่อมีประกาศิตจาก "พี่ใหญ่" คือ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณแรงชัด ว่า "จบได้แล้ว !" นั่นหมายความว่า "ความวุ่นวาย" ในทางการเมืองที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในภายพรรคพลังประชารัฐ ก็มีอันต้องหยุดลงเสียที เพราะนี่ไม่ใช่เวลาของ "การเมือง" แต่เป็นเรื่องของ "รัฐบาล" ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่างหาก อย่าลืมว่า บิ๊กป้อม นั้นยังมีตำแหน่ง " ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ" นั่งหัวโต๊ะ ดูแลความเรียบร้อยภายในพรรค มาโดยตลอด ทั้งบารมีและสถานะ จึงไม่ธรรมดา เมื่อ "พี่ใหญ่" ขยับ ทุกสรรพเสียง จึงควรที่จะต้อง "สงบ" แม้จะสงบเป็นการชั่วคราว ก็ตาม แต่นาทีนี้ หากฝ่ายที่กำลังเคลื่อนไหว ออกแรงกดดัน "อุตตม สาวนายน"รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรค , "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรค เพื่อให้พ้นจากเก้าอี้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะ "ขยับต่อ" ด้วยการบี้ให้ออกจาก ครม. เพราะทำไป ทำมา อาจกลายเป็นว่ากลุ่มของ "สุชาติ ชมกลิ่น-วิรัช รัตนเศรษฐ" แกนนำในพลังประชารัฐ อาจ "ได้ไม่คุ้มเสีย" อย่าลืมว่า เมื่อวันประชุมครม.เมื่อวันที่ 28เม.ย.ที่ผ่านมา "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงอาการ "ไม่ใส่ใจ" มาแล้ว นั่นหมายความว่านี่คือสัญญาณ ในเบื้องแรกที่ทุกคนควรต้องเงี่ยหูฟัง ความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐที่มีบางกลุ่มก๊วนอาศัยจังหวะที่พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงชุลมุนอยู่กับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยวาง "ระบบการแพทย์" เอาไว้เป็น "ทัพหน้า" ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กำลังจะกลายเป็น "ตัวฉุดรั้ง" ทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลเอง เพราะ "ศึกใน" ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หาก ทั้ง "บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่" ยังกำราบให้อยู่หมัดไม่ได้ ที่สุดแล้วจะกลายเป็นการเปิด "แนวรบ" ด้วยกันถึง "2ทาง"ในเวลาเดียวกัน ! ศึกในที่ทำท่าจะบานปลาย ครั้งนี้แน่นอนว่า ย่อมไม่ใช่ครั้งแรกและ ครั้งเดียว โอกาสที่จะเกิดขึ้นอีกในวันหน้า เมื่อการรับมือกับไวรัสโควิด -19สงบลง การประลองกำลัง ระหว่าง กลุ่มการเมืองในพลังประชารัฐ ที่ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าไม่เอา ทั้ง "หัวหน้า-เลขาฯพรรค" จะไม่ยอมอยู่เฉยอีกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลานั้น ย่อมไม่ใช่การเดินเกมเพื่อเคลื่อนไหวบีบ ขั้วของอุตตม ออกจากพรรคเท่านั้น แต่จะกระทบไปถึง เก้าอี้ในครม.อย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ดี การที่ศึกยอมสงบ จบลงเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้ รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาโควิด อย่างเต็มที่นั้น ใช่ว่าในห้วงเวลานี้บิ๊กป้อม จะไม่เปิดปฏิบัติการ "เคลียร์ใจ" ไปพร้อมกับการประเมินสถานการณ์ และทิศทางลมการเมืองไปในตัว แน่นอนว่า ในปีกของอุตตม และ "รัฐมนตรี" ที่เข้าข่ายตกเป็น "เป้า" ก็ย่อมรู้ตัวเองดีเช่นกันว่า โอกาสที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดในระหว่างนี้ จะสามารถทำอะไรได้บ้าง หากยังหวังที่จะ "ต่อวีซ่า" ของตัวเองทั้งในพลังประชารัฐและในรัฐบาล !