ทีมข่าวคิดลึก หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดและเผาทำลายสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 10 ส.ค. จนมาถึงวันที่ 12 ส.ค.วันสำคัญของประชาชนคนไทย นั่นคือ "วันแม่แห่งชาติ" ทำให้ผู้คนในสังคมทุกกลุ่มทุกฝ่าย ต่างพากันประณาม "มือมืด" ที่ลงมือก่อเหตุอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงแต่จะการเป็นลงมือใช้ความรุนแรงเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประเทศไทย ทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตผู้บริสุทธิ์เท่านั้นแต่การเลือกใช้วันแม่ สร้างความรุนแรงในพื้นที่หลายจังหวัดภาคใต้ตอนบน ในห้วงระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ยังเป็นการจงใจปลุกความหวาดกลัวและท้าทาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างชัดเจน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นต้องยอมรับว่าทั้ง คสช.และรัฐบาลต่างพากันร้อนใจ ต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพราะไม่เพียงแต่จะสร้างความหวั่นไหวกระจายไปทั่วในบ้านเราเท่านั้น หากแต่ยังกลายเป็นเหตุที่ทำให้ต่างชาติ พากันหันกลับมาเฝ้ามองทุกความเป็นไปในไทย หลังวันประชามติที่เพิ่งผ่านพ้นไปโดยที่ คสช. เป็นฝ่ายกุมชัยชนะ วันนี้ในเรื่องของกระบวนการขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน จับกุมผู้ต้องสงสัย ไปจนถึงการค้นหา "ตัวการ"โดยฝ่ายความมั่นคงยังคงเดินหน้าไปด้วยความเข้มข้น ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเองที่ต้องหาข้อมูลในเชิงลึก อาศัยงานด้านการ ข่าวที่มีความแม่นยำ มากกว่าที่ผ่านมา เพราะล่าสุด "สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าวเอง ยังออกมายอมรับล่าสุดถึงความผิดพลาดด้านการข่าว ที่ไม่มีการแจ้งเตือนกันมาก่อนหน้านี้ อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่กำลังตกเป็น "เป้านิ่ง" ด้วยเพราะอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและ คสช.หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อสรุปว่าเหตุระเบิดและการเผาทำลายสถานที่ต่างๆ ใน 5 จังหวัดภาคใต้ตอนบนที่เกิดขึ้นนั้น มาจากประเด็นด้านการเมือง ! งานนี้ส่งผลให้ "แกนนำ นปช."ตั้งพากันออกมาแถลงปฏิเสธพัลวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดพร้อมกันนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังออกโรงปกป้อง "ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกฯ ในฐานะนายใหญ่ของพวกเขา ว่าเป็นสิ่งไม่เป็นธรรม หากจะใช้วิธีการโยนความผิดให้กับทักษิณและฝ่ายตรงข้าม ระหว่างที่กระบวนการยุติธรรมกำลังเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ก็ดูเหมือนว่าบรรยากาศทางการเมือง ได้กลับมาเข้มข้นและคุกรุ่นกันอีกครั้งโดยเสมือนเป็นการกลับมาเผชิญหน้ากันระหว่าง คสช.กับ "ขั้วอำนาจทักษิณ" ผ่านเหตุการณ์ระเบิดป่วนเมือง ที่มีข้อสรุปว่าเป็นการก่อวินาศกรรม สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง เวลานี้จึงมีความแจ่มชัดว่าอยู่ในมุมที่เพลี่ยงพล้ำมากที่สุดในเชิงการต่อสู้ทางการเมือง โดยเฉพาะเมื่อ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ และหัวหน้า คสช. ได้พลิกเกมกลับมาเป็นฝ่าย "ปลุกใจ" ให้คนในสังคมร่วมกันต่อสู้ กับ "คนที่ไม่หวังดี" ที่ยังมีอยู่ในบ้านเราทั้งในทางตรงและทางอ้อม แม้ว่า หลายฝ่ายในปีกอำนาจของเครือข่ายทักษิณ โดยเฉพาะคนเสื้อแดงเองนั้นไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเคลื่อนไหวหรือขยับขึ้นมาต่อสู้ในทางใดทางหนึ่งก็ตาม แต่น่าสนใจว่าระเบิดที่หวังป่วน คสช. ทำลายรัฐบาล รอบนี้ กำลังจะถูกโยนเข้าใส่เครือข่ายฝั่งตรงข้าม คสช. เสียเอง !