ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
จากการแถลงข่าวของ ผจก.ธนาคารโลกประจำประเทศไทย ใจความว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในปี 2558-2561 จาก 4.5 ล้านคนเป็น 6.7 ล้านคนนั้นเป็นความจริง แต่เหตุเกิดจากรัฐบาลชุดนี้หรือรัฐบาลก่อนปี 57 คงต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลบ้าง
ผลพวงจากประชานิยมทั้งโครงการรถคันแรก บ้านหลังแรก และจำนำข้าว ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่งผลให้ประชาชนแห่เป็นหนี้กันเพิ่มขึ้น รถซื้อมาแล้วถูกยึดมากมาย จำนำข้าวไม่ได้เงิน เศรษฐกิจในช่วงนั้นจมดิ่ง ถึงขั้นติดลบเกือบ -1% กันทีเดียว ผลพวงจากเศรษฐกิจประชานิยมส่งผลต่อในปีต่อๆมา ถึงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องมานั่งแก้กันจนเหงื่อหยด ถูกฝ่ายค้านตีเอาๆ จนเกือบหมดแรงอยู่แล้ว
ธนาคารโลกยังกล่าวชมประเทศไทยว่ามีตัวชี้วัดด้าน SDGs ดีขึ้น ดีกว่าทุกประเทศในอาเซียน เป็นอันดับที่ 40 ในด้านการเรียนการศึกษาระดับปฐมวัย การมีน้ำใช้อย่างพอเพียง มีระบบสุขาภิบาลและไฟฟ้า มีความพอเพียงตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ดี โดยจัดอันดับไว้
ไทย อันดับ 40
เวียดนาม “ 44
สิงคโปร์ “ 66
มาเลเซีย “ 68
ฟิลิปปินส์ “ 97
อินโดนีเซีย “ 102
เมียนมาร์ “ 110
สปป.ลาว “ 111
แคมโบเดีย “ 112
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ต้องหันมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ อันเกิดจากโควิด-19 อีกยก นอกเหนือจากจะช่วยพยุงคนจนให้หลุดพ้นบ่วงกรรมของรัฐบาลชุดก่อนอีกชุดใหญ่ เช่น
- คืนเงินมัดจำมิเตอร์ไฟฟ้า
- ลดค่ากระแสไฟและเลื่อนการชำระไปอีก 3 เดือน
- พักหนี้เงินต้น 12 เดือน
- ยืดชำระหนี้
- ลดค่าธรรมเนียม
- ลดค่างวดขั้นต่ำเหลือ 5%
- ส่งเสริมการจ้างงาน/หยุดเลิกจ้าง
- ตั้งกองทุนช่วยเหลือแรงงาน
- เพิ่มสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
- ลดหย่อนภาษี
- เร่งคืนแวต
- ฯลฯ
จากมาตรการนี้คงผ่อนคลายยุคเศรษฐกิจโควิด-19 ที่เล่นงานประเทศไทยเสียจนระบม รัฐยอมลงทุนมากกว่า 4 แสนล้าน เพื่อประคองให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ในขณะที่ SDGs ของไทยยังมั่นคงอยู่เช่นนี้ เชื่อว่าประเทศไทยแม้ว่าคนจนจะเพิ่มขึ่น แต่ยังพอมีความหวังฟื้นตัวได้บ้าง ในยามเศรษฐกิจปรับตัว
ด้านการเมือง รัฐบาลมีเพื่อนใหม่มากขึ้น เช่น พรรคกล้า พรรคก้าวไกล และพรรคเสมอภาค แต่เอาประชาชนเป็นที่ยึดอ้างอิงและสร้างสรรค์เช่นกัน คงสามารถสร้างการเมืองที่มีพลังมากกว่าเดิม แทนที่จะถูกฝ่ายค้านตีเอาๆแบบเอาตัวไม่ค่อยรอดมาแล้ว จำนวน สส.ก็มีมากกว่าจะไปกลัวอะไร ขอให้นายกรัฐมนตรีอดทนทำงานต่อไปด้วยความอดทนเพื่อประชาชนเท่านั้น
การปรับคณะรัฐมนตรี บางคนเสียบ้าง ก็น่าจะทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง มีคนมาช่วยทำงานเพิ่มขึ้น คนที่ไม่ค่อยมีผลงานจนโลกลืม และคนที่ประชาชนไม่ยอมรับ คงสับเปลี่ยนให้คนตั้งใจมาทำแทนดีกว่าไหม ประเทศไทยจะได้เดินหน้าไปได้