ทีมข่าวคิดลึก
นานๆ จะออกโรงเปิดหน้ามาสักครั้ง แต่งานนี้ต้องยอมรับว่า"พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี" อดีตที่ปรึกษา "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ทำให้กองเชียร์ฝ่ายต่อต้าน "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" หรือ คสช. ต้องผิดหวัง เพราะ"เสธ.นาจ" จปร.รุ่น 7 ออกมาเขย่านายทหารรุ่นน้องทั้ง "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปจนถึง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ว่าอย่ายึดติดกับอำนาจ ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ !
แน่นอนว่าการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นายทหารรุ่นน้องทั้ง บิ๊กตู่บิ๊กป้อม จาก พล.อ.พัลลภ ครั้งนี้ย่อมถูกนำไปขยายความ ต่อยอดจนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทางการเมืองโดยไม่ต้องสงสัย เพราะจะว่าไปแล้วสิ่งที่ พล.อ.พัลลภ จงใจกระแทกบิ๊ก คสช. เช่นนี้ คือสัญญาณที่ไม่ได้ส่งมาจากนายทหารรุ่นพี่เท่านั้น แต่ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงการครหาว่านี่คือสัญญาณจากคนที่เคยนั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ขั้วอำนาจเก่าที่มี "ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกฯ ยืนเป็นเงาทะมึนอยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ ?
"ฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์พล.อ.ประวิตร ด้วยบั้นปลายชีวิตผมห่วงประเทศชาติ ตั้งแต่จบนายร้อยมาเข้าสู่สนามรบทุกแห่งที่รบกันทั้งในและรอบประเทศ เอาชีวิตเข้าเสี่ยงตลอด วันนี้ผมอายุ 80 ปีอยากเห็นประเทศมั่นคงประชาชนสันติสุข ขอบอกน้องๆ อย่ายึดติดอำนาจ จะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนรุ่นพี่ๆ ก็มีให้ดูในชีวิตเราเป็นทหาร ทำเพื่อประเทศชาติมากกว่าอย่างอื่น
ทหารพูดอะไรต้องทำตามนั้นไม่ทำตามปัญหาตามกลับมาจะมีบทเรียนใหญ่ๆ กำลังเกิดขึ้น คนไทยไม่ชอบการกดขี่ และยอมรับความยุติธรรม รวมถึงบ้านเมืองวุ่นวายทุกวันนี้ เพราะกลุ่มผลประโยชน์ที่อยู่ข้างฝ่ายแพ้ซ้ำซากแล้วจะอ้างตนเองเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ หากไปปรับปรุงตัวเองอาจชนะเลือกตั้งได้บ้าง" พล.อ.พัลลภ ออกมาทิ้งบอมบ์ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้หากย้อนกลับไป พล.อ.พัลลภ เองเคยออกมาให้สัมภาษณ์เขย่า "บิ๊กแอ้ด" พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ว่าอยู่เบื้องหลังร่วมวางแผนโค่นล้มระบอบทักษิณ 19 กันยายน 2549 ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าการออกโรงของ พล.อ.พัลลภ แต่ละครั้งไม่ต่างจากการขยับหมาก "ทหารชนทหาร"และสามารถสร้างเอฟเฟกต์ได้แทบทุกครั้ง
การแสดงความเห็นของ พล.อ.พัลลภ ด้านหนึ่งอาจเป็นเรื่องส่วนตัวที่ "รุ่นพี่" อยากฝากข้อคิดไปยัง"รุ่นน้อง" แต่ในขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า พล.อ.พัลลภ ได้ยืนอยู่ในแนวระนาบเดียวกับฝ่าย "ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ" ด้วยเหตุนี้ "สัญญาณ" ที่ส่งออกมาครั้งนี้จึงไม่อาจตีความไปได้ด้านเดียว
มิหนำซ้ำ ในอีกทางหนึ่งยังจะกลายเป็นการแสดงให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การต่อสู้ของเพื่อไทยเพื่อต่อกรกับ คสช. ได้เคยมีข้อสรุปแล้วว่าจะไม่เลือกใช้บรรดาแกนนำสายฮาร์ดคอร์ของพรรค เพราะต่างอยู่ในสภาพที่ "บอบช้ำ" กันจนถ้วนหน้า
แล้วเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ทหารชนทหารเพื่อโจมตี คสช. แทน เพราะจะสามารถสร้างน้ำหนักมากกว่าการส่งนักการเมืองลงมาปะทะ กับ คสช.ซึ่งไม่เคยได้ผลเป็นที่น่าพอใจนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ปฏิกิริยาทั้งจากบิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ที่จะมีต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของ พล.อ.พัลลภ นับว่าน่าสนใจยิ่งนัก เพราะอย่างน้อยที่สุดนี่อาจเป็นการเดินหมาก เพื่อเช็กอาการของ คสช. ว่าจากนี้ฝ่ายตรงข้ามจะสู้กันอย่างไรต่อไป?