ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] สงกรานต์ปีนี้ผ่านพ้นไปแล้ว ทุกคนคงได้มีโอกาสกลับบ้านไปกราบรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ด้วยความสุขกันทั่วหน้า อุบัติเหตุบนท้องถนน น่าจะน้อยลงมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลายคนหยุดกันก่อนวันที่ 13 ทำให้มีเวลาพักผ่อนกันเต็มที่ ของขวัญปีใหม่ไทยที่ทุกคนรอคอย นั่นคือรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2560 ได้รับพระราชทานมาแล้ว เป็นสัญญาณให้รู้ว่ากฎหมายลูกหลายๆฉบับจะทะยอยออกตามมา ปีหน้าคงได้เห็นประชาชนได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญใหม่ในการเลือกตัวแทนของประชาชนเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชนตามวิถีประชาธิปไตยตามที่ปรารถนา สิ่งที่ สปท. แต่ละคณะกำลังรีบเร่งจัดทำแผนปฏิรูปด้านต่างๆได้เดินเครื่องกันเต็มที่ คาดว่าภายใน 3-4 เดือนนรี้น่าจะเป็นรูปเป็นร่างนำไปใช้ประกอบรัฐธรรมนูญได้อีกเช่นกัน รัฐบาลประกาศชัดแล้วว่าจะดำเนินการตามโรดแมปที่ให้สัญญาไว้ โดยจะไม่หาเหตุสืบทอดอำนาจต่อไป จึงทำให้มั่นใจได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงจะมีโอกาสได้เห็นในยุคสมัยนี้ว่าจะจริงจังเพียงใด เพียงแต่อย่าเปิดช่องโหว่ของกฎหมายให้นักการเมืองหัวหมอได้โอกาสโกงบ้านโกงเมืองกันอีก อย่างน้อยการทุจริตคอรัปชั่นลดลง เท่ากับประชาชนจะได้ประโยชน์จากการใช้งบประมาณในการพัฒนาความอยู่ดีกินดีมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งได้รัฐบาลจริงใจ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เชื่อว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดไว้ พอเห็นแสงสว่างบ้างแล้วว่าประเทศไทย 4.0 น่าจะเกิดได้จริง จากการที่รัฐบาลจะช่วยประชาชนผู้ยากไร้ โดยให้มีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย หรืออาจพูดได้ว่าลงทะเบียนคนจน ได้ผลเกินคาด มีผู้มีรายได้น้อยตารมกติกา ลงทะเบียนมากกว่า 2 ล้านคน นับเป็นรุ่นที่ 2 รวม 2 รุ่น มีคนจนหลายล้านคน เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนยากจนอยู่มาก จึงน่าจะเป็นประเด็นหลักของรัฐบาลเลือกตั้งที่จะต้องพัฒนาชี้วัดความเป็นอยู่ของผู้คนเหล่านั้น ให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน คงมิได้หมายความว่ารัฐบาลหยิบยื่นเงินให้แต่เพียงมาตรการเดียว คงต้องคำนึงถึงอาชีพที่มีรายได้พอสมควร มีสวัสดิการที่ช่วยเติมความเหลื่อมล้ำของสังคมให้แคบลง ยิ่งสภาพของสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น คงต้องระดมสรรพกำลังของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ทันยุคของสังคมที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลกระหว่างขั้วของประเทศยักษ์ใหญ่ 2-3 ประเทศที่เริ่มระหองระแหงกัน มีการกีดกันทางการค้าออกมามากขึ้น กลายเป็นสงครามเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ และอาจถึงขั้นกระทบกระทั่ง ถึงขั้นแตกหักที่ยอมกันไม่ได้ด้วยการใช้กำลังต่อกัน ประเทศไทยเราเป็นประเทศเล็กๆ คงต้องวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองระหว่างประเทศให้รอบคอบ ดังเช่นในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่ทรงดำเนินนโยบายการเมืองมิให้ไทยตกเป็นอาณานิคมของใครเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ นั่นคือทรงอัจฉรินะภาพที่เป็นคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่ปวงชนชาวไทยตราบเท่าทุกวันนี้ที่รัฐบาลไทยพึงสืบสานแบบอย่างให้ประเทศไทย 4.0 เกิดขึ้นให้ได้