สถาพร ศรีสัจจัง มีข่าวดีมาบอก ! เรียกว่า "ข่าวดี" ก็เพราะเคยเกริ่นไว้ในคอลัมน์นี้เมื่อไม่นานนักว่า ถ้าเป็นไปได้จะคัดเลือกหนังสือที่คนเขียนคอลัมน์คิดว่า "น่าจะมีประโยชน์" มาแนะนำบอกเล่าคนอ่านกันสักอย่างน้อยเดือนละเล่ม หลังจากได้ทำเมื่อห้วงเดือนที่ผ่านมาครั้งหนึ่งแล้ว ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้ทำอีก มีแต่พูดแบบ "เฉียดไปเฉียดมา" ถึงหนังสือดีบางเล่มที่บังเอิญต้องอ้างอิงยกตัวอย่างถึง ในกรณี "ความรุนแรง" ที่ดูเหมือนจะขยายพื้นที่การก่อเกิดทั้งด้านกว้างและด้านลึกมากยิ่งขึ้นทุกทีๆในสังคมไทย                นั่นคือ การพูดถึงหนังสือเล่มน้อยของมูลนิธิโกมล คีมทอง ที่ชื่อ "ลังกาวิกฤติ : วันสังหารประชาชน" ของสาวก โยฮัน เทวนันทะ นักพรตนิกายอังกฤษชาวสิงหลเมืองศรีลังกา สำนวนแปลของอาจารย์วิทยากร เชียงกูร เจ้าของหนังสือลือลั่นยุคก่อน "14 ตุลาฯ" ที่ชื่อ ฉันจึงมาหาความหมาย               ที่อยากเอาหนังสือมาแนะนำก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า "ความรู้สึก" ที่พบว่า ในยุคปัจจุบัน สังคมโลกและสังคมไทยเราให้ค่า "หนังสือ" น้อยลงทุกทีๆ ตามดีกรีความเข้มข้นของ "ดิจิตอล" ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ศิลปากรสาขา "วรรณศิลป์" ที่เป็น "มรดก" สำคัญทางภูมิปัญญาไทยมาแต่โบราณไม่น้อยไปกว่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับคุณค่าของ "ความงาม" ที่บรรจุ "ความดีและความจริง" ไว้ภายในงาน "ศิลปะ" อีก 2 สาขาที่ได้รับความสนใจและการส่งเสริมจากรัฐอย่างกว้างขวาง คือ ทัศนศิลป์(Visual arts)และศิลปะการแสดง(Performance) จึงดูเหมือนจะแผ่วโผยและแทบจะไม่ได้รับการผลักดันส่งเสริมจาก "รัฐทุนล้าหลัง" (บางใครว่าเป็นเผด็จการด้วย!)สักเท่าใดนัก! เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะจัดขึ้นในเมืองชายแดนเล็กๆอย่างจังหวัดสตูลโดยกลุ่มคนรักวรรณศิลป์กลุ่มเล็กๆ(แต่เชื่อมันในพลังแห่งวรรณกรรมอย่างสูงส่งยิ่ง!)โดยไม่มีทุนสนับสนุนหรือค่าจ้างค่าโอนจากเงินภาษีสักสลึงเดียว จึงต้องบอกว่าเป็น "ข่าวดี" จริงๆ ข่าวดีที่จะต้องที่จะต้องบอกกล่าวแก่กัน ที่จะต้องโพนทะนาให้ได้รับทราบกันอย่างกว้างขวางที่สุดเท่าที่จะมีแรงทำได้                งานกิจกรรมทางวรรณกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ริมทะเลอันดามัน ณ รีสอร์ตชุมชนบ่อเจ็ดลูก อำเภอละงู จังหวัดสตูล ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ชื่อแสนจะโรแมนติคของงานคือ "กุมภาฯ-จันทร์" : Poet,Friend and February's moon." ฟังว่า โด้โผหลักในการจัดงานคือ เครือข่ายวรรณกรรมคู่สังคม บ้านผ้าขาวม้า ร่วมกับพันธมิตรอีกหลายองค์กร เช่น สถาบันสันติศึกษา ม.สงขลานครินทร์ เป็นต้น                วิทยากรหลักๆในงานนี้ก็เช่น อ.สดใส ขันติวรพงศ์ "ลูกสาวเฮสเส" นักแปลเรืองนาม/ผศ.อภิชาติ จันทร์แดงแห่งสถาบันสันติศึกษา/อ.ประมวล มณีโรจน์ พี่เอื้อยแห่งกลุ่ม "นาคร"/คุณติ้ก ไทลากูน ศิลปินนักร้องชื่อดัง/และนายสถาพร ศรีสัจจัง เป็นต้น                 แกนหลักของงานคือการสัมมนาในหัวข้อ "สัมพันธภาพระหว่างวรรณกรรมกับสังคม" ภายใต้การนำอภิปรายของวิทยากรหลายชื่อหลากนามดังที่กล่าวมา แต่ที่น่าจะสนุกอย่างมีคุณค่าก็คือกิจกรรมภาคค่ำที่จะเริ่มตั้งแต่ย่ำทุ่ม คือรายการดนตรี(หลายคณะและหลายคน)และการอ่านบทกวี ของบรรดากวีใหญ่น้อยที่เข้าร่วมงานอย่างท่วมท้น!                  ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ก็สอบถามไปได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 061-2530370 หรือที่ อีเมล์ [email protected]                  เรื่องนี้ไม่แน่ใจนักว่าพ่อเมืองสตูลที่เป็นนักกิจกรรมและ "นักอ่าน" ประเภทหนอนหนังสือเก่าตัวยงคนหนึ่งคือท่านวีระนันท์  เพ็งจันทร์ จะทราบเรื่องบ้างแล้วยัง ถ้าแว่วข่าวเข้าหูบ้าง แม้ผู้จัดจะเกรงใจไม่กล้าเชิญ ท่านก็น่าถือวิสาสะไปร่วม เพราะกิจกรรมเช่นนี้แหละที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพราะเป็นงานที่มุ่งการพัฒนาสติปัญญาของคน                    เห็นท่านนายกฯลุงตู่(ขนาดเป็นทหาร)อะไรนั่น ก็ย้ำนักย้ำหนาว่าจะต้องพัฒนาคนให้เป็นศูนย์กลางของแผนฯไม่ใช่หรือ?                   หยุดเรื่องการพัฒนาที่มีเป้ามุ่งเพื่อจะหาเงินเพียงอย่างเดียวไว้ก่อนสักวันก็ได้ ไม่ว่าจะเรื่องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่ม เรื่องถ้ำเลสะเตโกดอน ถ้ำภูผาเพชร หรือแม้แต่เรื่อง เกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตา นั่นก็เถอะ!                   ก็รู้อยู่หรอกว่าเที่ยวนี้รัฐมนตรีที่ดูแลการท่องเที่ยวและการกีฬาของชาติเกี่ยวข้องกับจังหวัดสตูลมากแค่ไหนอย่างไร                   แต่ช่วงนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนน่าจะต้องหยุดพักการเดินทางออกนอกประเทศกันชั่วคราวไม่ใช่หรือ?ก็เพื่อให้เกียรติโรคระบาด "โคโรนา" สายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังคร่าชีวิตผู้คนอยู่โครมๆนั่นไง อย่างน้อยก็น่าจะสัก 4-5เดือนเชียวแหละ!                   ถ้าท่านผู้ว่าฯได้มาร่วมด้วย บางทีสถานการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวด้านศิลปะวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านสติปัญญาของกลุ่มนักกิจกรรมและศิลปินเมืองสตูลอาจจะได้ฤกษ์งามยามดี คือได้เริ่มนับ1 เสียที,หรือท่านจะว่าไงกันน้อ?!!!!