ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] เวิลด์แบงก์ ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 จะได้เพียง 2.7% ก็ตาม แต่โครงการ EEC ยังได้รับการสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะคาดว่าถ้า EEC เกิดได้ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะโตแบบพลิกผันที่สุดในอาเซียนได้แน่ ดูจากผลการลงทุนของปี 62 มีมากถึง 750,000 ล้านบาท เป็นโครงการอยู่ใน EEC ถึงร้อยละ 40 เพราะความเชื่อมั่นในโครงการที่มีความเป็นไปได้สูง ในขณะที่โครงการใหญ่ๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึกอู่ตะเภามีผู้รับโครงการไปแล้ว ท้ายสุดโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก คงจะได้ผู้บริหารโครงการภายใน มี.ค. 63 นี้ แม้ว่าจะมีผู้เข้าประมูลเพียง 3 ราย ได้แก่ กลุ่มซีพี กลุ่มแกรนด์คอนโซเตียม และกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS แต่กลุ่มซ๊พี มาช้ากว่ากำหนดเวลาเปิดรับซองเพียงไม่กี่นาที และยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด ผลสรุปศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยให้กลุ่มซีพีมีโอกาสเสนอซองราคาด้วย เพราะเป็นโครงการที่มีมูลค่าสูง จะเป็นผลประโยชน์สูงต่อประเทศ ผลการเปิดซองราคาทั้ง 3 กลุ่ม ปรากฏว่ากลุ่มกิจการร่วมค้า BBS ให้ประโยชน์แก่รัฐสูงสุดใน 50 ปี 3.05 แสนล้านบาท กลุ่มซีพีเสนอ 1.1 แสนล้านบาทและกลุ่มแกรนด์คอนโซเดียม 1 แสนล้านบาท สรุปว่ากลุ่มร่วมค้า BBS ได้ให้ราคาต่อรัฐสูงสุดแบบไม่เห็นฝุ่นมากกว่าซีพีถึง 2 แสนล้านบาท คาดว่า BBS จะเป็นผู้ชนะการประมูลและสิทธิการบริหารสนามบินที่มีขอบเขตความรับผิดชอบหลายด้าน ได้แก่ -ศูนย์การขนส่งภาคพื้น -หอบังคับการบิน -Runway 1-2 -ศูนย์ธุรกิจการค้า -เขตประกอบการค้าเสรี -ศูนย์ขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ -อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 -ศูนย์ซ่อมบำรุงท่าอากาศยาน -ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการเงินและอวกาศ -สาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า -ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน 500 ไร่ -เช่าพื้นที่ 5,500 ไร่ กองทัพเรืออีก 50 ปี ย้อนกลับมาดูว่ากลุ่ม BBS มีใครบ้างที่ร่วมกันจะบริหารโครงการที่มีความสำคัญระดับชาตินี้ พบว่า ได้แก่ 1.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 35% ประสบการณ์เป็นผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว ตั้งแต่ปี 2542 และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้บริษัท ยูซิตี้ จำกัด(มหาชน) 2.บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ถือหุ้น 45% เป็นผู้ประกอบการสายการบินบางกอกแอร์เวย์มีฝูงบิน 35 ลำ 25 เส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีสนามบิน 3 แห่ง คื่อ สุโขทัย ตราด และ สมุย ซี่งเป็นงานถนัดด้านบริหารธุรกิจการบินอยู่แล้ว 3.บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20% เป็นบริษัทรับเหมารายใหญ่ของปรเทศ ทั้งงานโยธาและงานเครื่องกล รวมถึงงานสาธารณูปโภค งานด้านการพลังงาน อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรที่จะมาช่วยบริหารสนามบินอู่ตะเภา คือ ผู้บริหารสนามบินนานาชาตินาริตะ ของญี่ปุ่น ที่เป็นสนามบินใหญ่อันดับ 1 ใน 3 ของโลกอยู่ด้วย จึงเห็นว่าเหมาะสมที่จะบริหารสนามบินอู่ตเภาได้สำเร็จ