สถาพร ศรีสัจจัง
ถามว่าการประกันราคาปาล์มน้ำมันมีผล ต่อชาวสวนรายย่อยซึ่งมีที่ดินเฉลี่ยเพียงรายละ 5-10 ไร่ไหม? ก็ต้องตอบว่ามีผลทางจิตวิทยาไม่น้อย เพราะในทางการเมืองทำให้ชาวบ้านอาชีพนี้ ที่รู้สึกมาตลอดเวลาว่า พวกของตัวเองถูกทิ้งขว้างมาอย่างยาวนาน ได้รับการดูแลจากรัฐบาลขึ้นบ้าง! แม้ว่า สิ่งที่ได้เป็นตัวเงินสำหรับชาวสวนรายย่อยนั้นต้องถือว่าน้อยมาก ทั้งกว่าจะได้ทีหนึ่งก็ต้องรอตั้งเดือนครึ่ง!
คนที่ได้เรื่องนี้อย่างเต็มๆในเรื่องนี้ คือชาวสวนรายใหญ่ ผู้มีที่ดินอย่างน้อยตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป ซึ่งในพื้นที่เพาะปลูกหนึ่งๆมีนับหัวได้เพียงไม่กี่ราย!
ถามอีกว่าพวกรายใหญ่จะได้รับเป็นกอบเป็นกำได้อย่างไร? เพราะรัฐมีการ “จำกัด” หรือ “ลิมิต” (Limitted) จำนวนไร่/ราย ในการประกันราคาไว้นี่? เรื่องนี้ “รัฐ” ของนายกฯลุงตู่เห็นจะต้องใช้ให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องของท่านไปหารายละเอียดกันเอาเองก็แล้วกันเนี้อ ว่าคนรวยเขามีวิธีเอาเงินภาษีของรัฐมาใช้แบบหมูๆได้อย่างไรกันบ้าง!
โดยปกติชาวสวนปาล์มน้ำมันที่มีที่ดินประมาณ 10 ไร่ จะปลูกปาล์มได้ 300 ต้น (ค่อนข้างแน่น) พืชเชิงเดี่ยวอย่างปาล์มน้ำมันนั้น ถ้าจะให้ได้ผลผลิตเต็มที่ ชาวบ้านเจ้าของสวน นอกจากต้องเลือกพันธุ์ที่เป็นพันธุ์แท้ (ไม่ถูกหลอกขายพันธุ์ปาล์ม)ที่มีคุณภาพ และมีพื้นที่ปลูกเหมาะสมแล้ว ยังจะต้องดูแลฟูมฟักสวนเป็นอย่างดี ต้องมีการฉีดยาฆ่าหญ้าหรือตัดหญ้าอย่างน้อยปีละ 1ครั้ง มีการตัดแต่งกิ่งปาล์มปีละครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือต้องใส่ปุ๋ย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปุ๋ยเคมียี่ห้อที่มีราคาค่อนข้างแพง เพราะเป็นปุ๋ยที่ทำการตลาดดี และเข้มข้นมายาวนาน จนทำให้ชาวบ้านเชื่อมาตลอดว่า ถ้าเลือกใส่ปุ๋ยยี่ห้อดังกล่าวเหล่านั้นแล้ว จะทำให้ได้ผลผลิตมากและคุ้มค่า ดังนั้นถ้าเขาเลือกได้ แม้จะมีราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น ชาวบ้านทั่วไปก็มักต้องเลือกใช้
ปาล์มน้ำมันที่จะเก็บเกี่ยวผลได้นั้นต้องมีอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป และปาล์มที่ให้ผลมากต้องมีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป ปาล์มเหล่านั้น ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องแบ่งใส่ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 3 กิโลกรัมต่อต้น เฉลี่ยแล้ว 10 ไร่ที่มีปาล์มประมาณ 250 – 300 ต้น ก็ต้องใส่ปุ๋ยปีละประมาณ 30 กระสอบ (กระสอบ 50 กิโลกรัม) ราคาปุ๋ยโดยเฉลี่ยประมาณกระสอบละ 1,000- 1,200 บาท(แล้วแต่จะเลือกยี่ห้อ)
เฉพาะค่าปุ๋ยชาวบ้านต้องใช้เงินประมาณปีละ 30,000 บาท!
นี่ยังไม่นับค่าตัดแต่งกิ่ง ค่าฉีดยาฆ่าหญ้าหรือตัดหญ้าเลยนะ!
ปาล์มน้ำมันนั้นแตกต่างจากยางพาราตรงที่เจ้าของสวนรายย่อยมักไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตเอง เนื่องจากมีความไม่สะดวกเรื่องการขนย้ายผลผลิตจากสวนไปยังโรงงานหรือจุดรับซื้อ จึงในแต่ละพื้นที่จะมี “ทีม” รับจ้างตัดปาล์มที่มีคน เครื่องมือเก็บเกี่ยวเกี่ยวและรถบรรทุกปาล์มพร้อม สนนราคาค่าตัดผลปาล์มและค่าบรรทุกคิดรวมเป็นต่อกิโลกรัม เฉลี่ยทั้งค่าตัดค่าบรรทุกตกอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 1 บาท
นั่นหมายความว่าถ้าปาล์มน้ำมันราคากิโลกรัมละ 2.50 บาท เจ้าของสวนก็จะได้ 1.50 บาท!
แล้วค่าปุ๋ย ค่าจ้างตัดแต่งกิ่ง และค่าฉีดยาค่าหญ้าอีกละ?
ในบรรดาปัจจัยการผลิตปาล์มน้ำมันทั้งหมดทั้งปวงนั้น ต้องถือว่าเรื่องปุ๋ยสำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่ได้ใส่ปุ๋ยหรือใส่ปุ๋ยไม่ถูกต้อง ผลผลิตที่ออกมาจะน้อยมาก ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า ปุ๋ย เป็นปัจจัยชี้ขาดในการปลูกปาล์มน้ำมัน
เรื่องที่จะหวังให้ชาวบ้านทำปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองนั้นแทบจะพูดได้เลยว่าเป็นความเพ้อเจ้อของรัฐ
เพราะกระทั่งถึงปัจจุบัน “รัฐ” เคยสำรวจและศึกษาวิจัยอย่างจริงจังหรือไม่? ว่ามีเกษตกร (โดยเฉพาะชาวสวนปาล์มน้ำมัน) สักกี่รายหรือกี่เปอร์เซ็นต์แล้วที่หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์? และเพราะเหตุใดที่ชาวบ้านเหล่าเขาไม่ใช้? และทำไมพวกเขาจึงรวมกลุ่มกันอย่าง “ยั่งยืน” ไม่ได้ตามคำโฆษณาและคาดหวังของรัฐ?
เรื่องนี้คงต้องยกยอดไปพูดกันเป็นเฉพาะเรื่อง เพราะเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่กำลังจะนำสังคมไทยไปสู่ความล่มสลายอย่างแน่นอน! ก็เล่นส่งเสริมระบบทุนนิยมบริโภคกันแบบเอาเป็นเอาอยู่อย่างที่เห็นๆ ก็ EEC ของบิ้กตู่นั่นไงเป็นตัวอย่าง อย่าปฏิเสธเลย!/แล้วอย่างนี้ “วิถีเศรษฐกิจพอเพียง” ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 สอนนักสอนหนาจะเกิดได้ขึ้นได้อย่างไร?ก็คงจะพูดกันแต่ปากไปเรื่อยๆนั่นหละนะ!
ตอนนี้ได้ข่าวว่าราคาปาล์มน้ำมันกำลังพุ่งขึ้นสูงจะไปชนกิโลกรัมละ 6 บาทเข้าแล้ว ชาวสวนรายรายย่อยก็คงซวยตามเคย เพราะส่วนต่างราคาที่จะได้จากการประกันของรัฐก็คงไม่ได้ ถ้าได้ก็คงจะหน่อมแน๊มเต็มที เพราะผลปาล์มน้ำมันในสวนก็ไม่มีจะขาย!
ก็จะให้ปาล์มปีนี้มีลูกมีผลได้อย่างไรกันละ เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลปาล์มน้ำมันราคาตกต่ำเตี้ยติดดิน ขายไม่ได้เงิน ชาวสวนปาล์มน้ำมันรายย่อยยากจนที่ไม่มีทุนรอนสำรอง จะเอาเงินสดที่ไหนไปซื้อปุ๋ยที่ราคาแพงลิบลิ่วไม่เคยลดลง มาใส่บำรุงสวนกันละ? เมื่อไม่ได้ใส่ปุ๋ย ก็ย่อมรู้กันละ ว่าที่เคยได้เป็นพันกิโลก็จะเหลือแค่ร้อย ท่านรองนายกฯ “อู้ดด้า” คนใต้แท้เข้าใจแล้วยังละครับว่า ราคาปาล์มน้ำมันที่สูงขึ้นวันนี้นะเพราะชาวสวนเขาไม่มีผลปาล์มจะขาย ซวยไหมละทีนี้? เงินประกันราคาก็ไม่ได้เพราะราคาปาล์มน้ำมันทะลุเกินราคาประกันของคุณไปแล้วนี่!!!!!