พรรคเพื่อไทยโหมโรง ตระเตรียม "งานใหญ่" เล็งเปิดศึกในสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้ "ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ" รัฐบาลของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกว่าพรรคไหน หรือใครจะไปเปิดศึก "นอกสภาฯ" จัดอีเว้นท์ กดดัน รัฐบาลในรูปแบบไหนก็ตาม แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว ขอกลับมาเล่นเกมที่เชื่อมั่นว่า ตัวเองมีความถนัดและช่ำชองมากพอ
การที่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปดักทางเปิดเกมเขย่ารัฐบาลด้วยรูปแบบแฟลชม็อบ หล่อเลี้ยงกระแสเพื่อรอไปถึงวันที่ 12 ม.ค.63ถึงวัน "วิ่ง ไล่ ลุง" นั้นอาจไม่ใช่เกมที่พรรคเพื่อไทย ประเมินว่าจะได้มากกว่าเสีย
เพราะมีแต่จะ "สุ่มเสี่ยง" แทนที่จะได้แต้ม เขย่ารัฐบาล ก็พลันจะกลายเป็น "เงื่อนไข" ให้แกนนำไปจนถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องเผชิญกับ "คดีความ"เมื่อล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดีด้วยกันใน3 ข้อหา ทั้งการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะฯ รวมทั้งการชุมนุมในเขตพระราชฐาน
แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว การเล่นเกม เขย่า "เรือเหล็ก" ในสภาฯ ด้วยญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่ "ขุน" อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ไปจนถึงรัฐมนตรี กระทรวงเล็ก กระทรวงน้อย ต่างก็สามารถตกเป็น "เป้าโจมตี" ด้วยกันได้ทั้งสิ้น
และที่น่าสนใจ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ พรรคเพื่อไทย ยังอาจจะกลายเป็น "พระเอก" ฉายเดี่ยวบนเวทีได้อีกต่างหาก เพราะอย่าลืมว่าเวลานี้ "พรรคอนคตใหม่" อยู่ในภาวะที่สาละวนอยู่กับการต่อสู้เอาชีวิตรอดจาก "คดียุบพรรค" กรณี ธนาธร ให้เงินพรรคกู้ยืม 191 ล้านบาท โดยล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งเรื่อง ไปยัง "ศาลรัฐธรรมนูญ" เรียบร้อยแล้ว
เพราะเวลานี้มีการประเมินกันไปถึงขนาดที่ว่า ที่สุดแล้ว พรรคอนาคตใหม่ อาจจะอยู่ไม่ถึงวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยซ้ำ !
ความเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยปรากฎขึ้น ต้องนับว่าไม่อาจละสายตา เนื่องจาก ล่าสุด พรรคได้แต่งตั้ง "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ให้เป็น คณะกรรมการกิจการพิเศษ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหัวหน้าและกรรมมาบริหารพรรค เป็นเสมือน "แม่ทัพ" ขึ้นมาคุมเกมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แถมยัง "ขึ้นตรง" กับ "หัวหน้าพรรค" ที่ชื่อ " สมพงษ์ อมรวิวัฒน์"
พร้อมกันนี้ร.ต.อ.เฉลิม ยังกางแผนการเล่น ว่าจะจับ "บิ๊กตู่" ขึ้นเขียงอันดับแรก จากนั้นไล่เรียงไปยังรัฐมนตรี อันได้แก่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ -วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และดอน ปรมัตถ์วินัย เจ้ากระทรวงบัวแก้ว
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ความฮือฮาของตัว ร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะดำเนินบทบาทได้ดุเดือด เข้มข้น จนสามารถ "โค่นรัฐบาล" ลงได้หรือไม่ หากแต่มิติที่มีความสลักสำคัญคือการสะท้อนปัญหา "การนำ" ภายในพรรคเพื่อไทยเองว่า เมื่อร.ต.อ.เฉลิม ปรากฎตัว มีพื้นที่ในการเล่น แล้ว "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานยุทธศาสตร์ ของพรรค จะไปอยู่ในส่วนใด ในเกมซักฟอกรัฐบาล
เพราะหากเกมนี้พรรคเพื่อไทย สามารถ "ทำแต้ม"เขย่ารัฐบาลได้อย่างเห็นผล คงไม่ต้องถามว่าแล้ว "ผลงาน" จะตกเป็นของ "กลุ่มอำนาจ" ใดในพรรคเพื่อไทย หากไม่ใช่ ขั้วของสมพงษ์ ที่ขึ้นตรงกับ "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" ตัวจริง เสียงจริงซึ่งไม่กินเส้นกับ "กลุ่มกทม." ของคุณหญิงสุดารัตน์ นั่นแล !!