ดร.วิชัย พยัคฆโส
ผ่านพ้นไปแล้ว 4 เดือน ของรัฐบาลประยุทธ 2 แม้ว่าจะมีหลายพรรคเข้ามาร่วมกันเป็นรัฐบาล แต่ก็ยังรู้สึกว่าทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน ยังนับว่าเข้าขากันดีอยู่
แม้ว่าจะประสบปัญหากับเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าและมีสงครามทางการค้าระหว่างยักษ์ของเอเชีย คือ จีน กับ สหรัฐ ที่ยังตกลงกันไม่ได้ในหลายๆเรื่อง ทำให้กระทบกับการส่งออกของไทย ที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และคอมพิวเตอร์ส่งให้จีนไปประกอบส่งออกบ้าง ทำให้ GDP ของไทยไม่กระเตื้องเท่าที่ควรก็ตาม แต่รัฐบาลลุงตู่พยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ อาทิเช่น
1.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อย ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า น้ำประปา ก๊าซหุงต้ม ค่ารถโดยสาร เงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค 200-300 บาท/คน/เดือน และการได้คืนภาษี 5% หลังการใช้จ่ายผ่านบัตรเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ 1% เป็นต้น
2. โครงการชิม ช็อป ใช้ ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนถึง 3เฟสด้วยกัน เป็นเงินจับจ่ายถึง 2 หมื่นล้านบาท
3. บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในการเพิ่มเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นและสิทธิประโยชน์เน้นการเข้าถึงการรักษามากกว่าเดิม
4. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่มเงินให้ผู้สูงอายุสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 2 เดือน
5. เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เริ่มจ่ายงวดแรกหลังขยายวงเงินเป็น 600 บาท/เดือน ตั้งแต่ 15 ต.ค. 62
6. ประกันรายได้เกษตรกร เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ สามารถประกันราคาพืชผลที่เป็นพืชเศรษฐกิจทุกตัว นับเป็นโครงการที่เห็นหน้าเห็นหลังกับรายได้ของเกษตรเพิ่มขึ้น
7. มาตรการช่วนเหลือชาวนา จ่ายค่าเก็บเกี่ยวและปรับคุณภาพข้าวไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ พร้อมกับสนับสนุนต้นทุนการผลิตเพิ่มเติมอีก 2.5 แสนครัวเรือน ทำให้ชาวไร่ชาวนายิ้มออก
8. ขยายโครงข่ายรถไฟฟ้า 7 เส้นทาง ควบคู่ไปกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน และลดภาระค่าโดยสารของรถไฟ MRT
9. สนับสนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนวงเงิน 50,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 0.01% เป็นเวลา 3 ปี
10. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน วงเงิน 14,348.4 ล้านบาท โดยจัดสรรให้กองทุนหมู่บ้านแห่งละไม่เกิน 2 แสนบาท
11. พักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและทุนการเมืองตามความสมัครใจ
12. โครงการบ้านดีมีดาวน์ โดยสนับสนุนเงินดาวน์ 50,000 บาท แก่ผู้มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/เดือน ทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสได้บ้านเป็นของตนเองเป็นโครงการสุดยอดของรัฐบาล
ทั้ง 12 โครงการ เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของรัฐบาล เพื่อมิให้ GDP ตกต่ำไปกว่านี้อีก แม้ว่าจะไม่มากนักแต่รัฐบาลก็ตั้งใจทำให้ประชาชนพอใจกันถ้วนหน้า และฝ่ายค้านจะมีประเด็นใดมากดดันรัฐฐาลในการเสนอญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลอีก
จริงอยู่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มิใช่โครงการใหญ่โตก็ตาม แต่รัฐบาลก็ตั้งใจทำเพื่อมิให้หนี้สินครัวเรือนของประชาชนเพิ่มขึ้นอีก รัฐบาลคิดได้ถูกทางแล้ว รอปีหน้าน่าจะมีโครงการลงทุนภาครัฐใหม่ๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศอีก เอาใจช่วยครับ