ทีมข่าวคิดลึก ประเด็นที่กลายเป็น "ภาคต่อ"หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารบุกเข้าค้นบ้านเครือข่าย "โกตี๋" วุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี และพบอาวุธสงครามจำนวนมากอีกทั้งยังถูกเชื่อมโยง กับการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงการเตรียมการสร้างความวุ่นวายที่วัดพระธรรมกาย ส่งผลให้ "คดีอาชญากรรม" การจับอาวุธครั้งนี้ ได้ถูกขยายผล มาสู่เรื่องราวทางการเมืองโดยปริยาย ถึงแม้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ที่จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว แต่ยังไม่สรุปว่าอะไรคือแรงจูงใจ ทุกอย่างอยู่ในชั้นของการสอบสวน เพื่อขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงใครและอย่างไร จนกลายเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดคำถาม และเกิด "วิวาทะ" ตามมาจากทั้งฝ่ายรัฐบาล ไปจนถึงเสียงตอบโต้ที่ดังข้ามประเทศมาจากโกตี๋ ได้มีการเคลื่อนไหวผ่านช่องทางยูทูบของตัวเอง เพื่อชี้ให้เห็นถึง"ความผิดปกติ" นอกจากนี้ยังพบว่า บรรดา "แนวร่วม" ของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ทั้งตัวบุคคลไปจนถึงโลกออนไลน์ได้พากันตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดอาวุธที่ถูกค้นในบ้านเป้าหมายจึงค่อนข้างใหม่ มีการ "จัดฉาก" กันหรือไม่ ? ทางด้าน "พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแก้ข้อสงสัย ว่า เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้อาศัยอยู่นานแล้ว ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง "ขณะเข้าปฏิบัติการก็มีสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่ครอบครองอาวุธเหล่านี้ได้เก็บทุกอย่างไว้ในกล่องที่ปิดผนึกและซุกซ่อนไว้ในที่ลับเฉพาะ ทำให้ของกลางทั้งหมดดูใหม่ จึงไม่ใช่การจัดฉากแต่อย่างใด" พล.ท.สรรเสริญ ต้องออกมาชี้แจงผ่านสื่อ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเป็นประเด็นร้อนที่ไม่อาจรอได้ อย่างไรก็ดี สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ กำลังสะท้อนสิ่งที่เป็นอยู่จริง ที่ยังมีอยู่ เพราะนอกเหนือไปจากเรื่องของการบุกค้นพื้นที่เป้าหมาย จนสามารถจับอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมากนั้น คือ "ความขัดแย้ง" ที่ยังดำรงอยู่ ระหว่างกลุ่มการเมืองที่มีอุดมการณ์และแนวคิดคนละขั้ว ! เพียงแต่วันนี้ เวลานี้ สถานการณ์ของฝ่าย คสช. และแนวร่วม ล้วนแล้วแต่เป็นต่อ อยู่ในมุมที่เป็นฝ่าย "คุมเกม" เอาไว้ได้ในทุกๆทาง การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ จากฝ่ายที่กำลังโจมตีที่ทหารเป็นคนจัดฉากเสียเอง อาจทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการโดนตอบโต้ และรุกไล่มากขึ้น ยิ่งเมื่อล่าสุด บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร ออกมาส่งเสียงกร้าว สวนกลับโกตี๋ว่า เอาตัวเองให้รอดก่อน อีกทั้งยังระบุด้วยว่ามาตรการจากนี้จะมีความคืบหน้าถึงขั้น ติดตามเอาตัวโกตี๋ กลับมาดำเนินคดีในไทย "ผมตามข่าวนี้มานาน ตามมาตลอด ไม่ต้องกลัวในเรื่องความมั่นคงเราตามทุกเรื่อง จำไว้ ส่วนโกตี๋ออกข่าวว่ามีการจัดฉากก็โกตี๋จัดฉากไง ก็ว่ากันไป ตอนนี้เอาตัวให้รอดเถอะ" (20 มี.ค.) สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อการสร้างถนนสายปรองดอง ตามที่หลายฝ่ายกำลังวิตกกังวล อยู่หรือไม่นั้น ที่สุดแล้ว อาจไม่มีผลอย่างใดอย่างหนึ่งเลยด้วยซ้ำ เพราะวันนี้เชื่อว่าแม้แต่ตัว"ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ในฐานะเจ้าของเครือข่ายอำนาจเก่า ทั้งพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง น่าจะประเมินสถานการณ์ได้แล้วว่า การสร้างความปรองดองนั้น พวกเขาถูกจัดวางเอาไว้ให้อยู่ส่วนไหน !?