พิษจาก "สภาฯ ล่ม" สองครั้งสองคราติดๆ กัน ทำเอา "บิ๊กรัฐบาล"พากันอยู่ในภาวะ "นั่งไม่ติด" !
เพราะอย่าลืมว่าสาเหตุของปัญหาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีอันต้องล่ม ไม่เป็นท่า เกิด 2 รอบติดๆ กันก็ล้วนแล้วแต่มาจากปัญหาภายในของ "พรรคร่วมรัฐบาล" ด้วยกันเองเป็นสำคัญ
และทั้งที่รู้ว่า รัฐบาล ต่างอยู่ในภาวะ "เสียงปริ่มน้ำ" ด้วยมีเสียง ส.ส.ในมือ มากกว่า "7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน" เพียงไม่กี่เสียง ชนิดที่ต้องเรียกว่าทิ้งห่างกันไม่ถึงช่วงตัว แต่ยังกลายเป็นว่า เบื้องลึกมากไปกว่าปัญหา"องค์ประชุมไม่ครบ" แล้ว ยังพบว่า"รอยร้าว" ที่เกิดขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ได้ผสมโรง อาศัยจังหวะนี้ "เล่นเกม" เพื่อ "รุก" ไปยัง"บิ๊กรัฐบาลตัวจริง"
"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ "พี่ใหญ่"อย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เองก็รู้ดีว่าการดำรงอยู่ร่วมกันของ "พรรคร่วม" ในภาวะ "รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ"ย่อมจะต้องเจอกับสภาพการณ์เช่นนี้โดยเฉพาะหาก พรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน เกิดอาการไม่พอใจ ก็จะใช้ช่องว่างจุดนี้ "ส่งสัญญาณ" ออกมาอย่างที่เห็น
การออกมาทวงสัญญาลูกผู้ชายจาก พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ทางหนึ่งจะเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจก็ตาม แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า ทั้ง บิ๊กตู่และบิ๊กป้อม จะสามารถใช้ "ความแข็งกร้าว"หักด้ามพร้าด้วยเข่าไปได้ทุกเรื่อง
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อมองไปยังพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่นๆ เองทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี "6 ส.ส." ยกมือโหวตสวนทางกับ มติวิปรัฐบาล ในญัตติขอให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการใช้ประกาศคำสั่งของคสช. และคำสั่งของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 หรือแม้แต่กรณีล่าสุด เมื่อเกิดปัญหา "สามเส้า" ระหว่างรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐจากปัญหาการแบน สารเคมี
ทว่า ลึกๆ แล้วนาทีนี้ จะมีพรรคการเมืองใด กล้าตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไปเป็น"ฝ่ายค้าน" ซึ่งดูจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากความเป็นจริง !
ล่าสุดมีความชัดเจนว่า พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมนัดหมายพบปะร่วมกัน ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ณ สโมสรราชพฤกษ์ ในเวลา แดดร่ม ลมตก18.00 น. ซึ่งหลายฝ่ายคาดหวังว่าการจัด meeting ในครั้งแรก รอบนี้น่าจะสร้างบรรยากาศที่ดีมากขึ้น โดยคาดว่าจะจัดนัดพบปะ ร่วมกันในทุกๆเดือน เพื่อกระชับสัมพันธ์ ประสานรอยร้าวระหว่างกัน
นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมว่าปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล อันเนื่องมาจากการบริหารนโยบายนั้น กำลังจะครบรอบห้วง 6 เดือน ย่อมต้องการ "ผลงาน" ให้ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมมากที่สุด เนื่องจากผลงานของรัฐบาลย่อมจะนำมาซึ่ง "ความพึงพอใจ" จากประชาชน เพราะนี่คือ"เกราะชั้นดี" ที่จะป้องกันรัฐบาล เกมในและนอกสภาฯ ได้มากที่สุด
เพราะหากรัฐบาลมีผลงานที่ประจักษ์ โอกาสที่จะถูกเขย่าด้วย "ศึกซักฟอก" ของ "พรรคฝ่ายค้าน" กำลังไล่หลังตามมาติดๆ ซึ่งล่าสุดพรรคฝ่ายค้านเองขยับห้วงเวลาการยื่นญัตติไปในเดือน ม.ค.63 ก็อาจจะทำให้เกมเชือดกลางสภาฯ กลายเป็นมุกแป้กจุดไม่ติด แถมยังจะกลายเป็นการ "ปิดทาง" ให้เกมป่วน "นอกสภาฯ" ไปโดยปริยาย!