ทีมข่าวคิดลึก
สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าอาจไม่ใช่"ความจริงทั้งหมด" เพราะบางเรื่องราว มีความซับซ้อน มากไปกว่าที่ตาได้เห็น !
"พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์" โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความปรองดอง แถลงสรุปภาพรวมการพูดคุยเสนอแนวทางปรองดอง ได้ระบุถึงภาพรวมของการรวบรวมความเห็น ข้อเสนอแนะจากพรรคการเมือง ที่ผ่านมาว่ามีพรรคการเมืองเข้าร่วมหารือสร้างความปรองดอง ทั้งสิ้น 39 พรรคการเมือง จากพรรคการเมืองจำนวนทั้งหมด 42 พรรค
และในวันที่ 15 มี.ค.นี้ จะเป็นคิวของ"แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" หรือ นปช. ส่วนในวันศุกร์ที่ 17 มี.ค.ปิดท้ายสัปดาห์กันที่ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)แน่นอนว่า การหารือว่าด้วยการปรองดองในห้วงสัปดาห์นี้ จะต้องอยู่ในความสนใจของคอการเมืองไม่แพ้เมื่อครั้งที่ "พรรคเพื่อไทย" ยกพลตบเท้าเข้ากระทรวงกลาโหมเพื่อร่วมวงปรองดอง
เพราะการมาเยือนถิ่นทหาร ของพรรคเพื่อไทย ครั้งล่าสุดน่าสนใจว่ามีสัญญาณที่แปรเปลี่ยนไปจากครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากรอบนี้มี "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมขบวนมาด้วย จนทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นตามมาว่า แท้จริงแล้ว นี่คือการส่งสัญญาณ "ทอดไมตรี" สานสร้างการปรองดอง ระหว่าง พรรคเพื่อไทยที่มี "ทักษิณชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าของพรรคตัวจริง กับ "บิ๊ก คสช." ใช่หรือไม่โดยเฉพาะ บิ๊ก คสช.อย่าง "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทในปฏิบัติการสร้างความปรองดอง ได้ถูกจับตาทันที ว่างานนี้จะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบารมีและคอนเน็กชั่นของ "พี่ใหญ่" ที่กำลังจะดึงให้ทุกๆ ฝ่ายให้หันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน หาจุดร่วมที่ทำให้การเมืองสามารถเดินหน้าได้ต่อไปหรือไม่ ?
ไม่เพียงแต่การนำทีมปรองดอง ของคุณหญิงสุดารัตน์ มาเยือนที่กระทรวงกลาโหม จะกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์เท่านั้นแต่ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหวจาก "อนุทิน ชาญวีรกูล" แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงเรื่องราว ทางการเมืองที่เคยเกิดขึ้นในวันวาน หลังถูกคนของพรรคประชาธิปัตย์ กระทบกระแทกพรรคภูมิใจไทย
จุดโฟกัสของการสร้างความปรองดองโดยคณะทำงานที่มีบิ๊กป้อม นั่งคุมเกมอยู่หัวโต๊ะเวลานี้ จึงเต็มไปด้วยสีสัน และความสงสัยว่าบนกระดานสร้างความปรองดองรอบนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเปลี่ยนตัวเล่นจาก "สายฮาร์ดคอร์" มาสู่สายประสานผ่านคุณหญิงสุดารัตน์ อย่างนั้นหรือไม่
ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์และอนุทิน ล้วนแล้วแต่เป็นนักการเมืองระดับคีย์แมนที่ต่างเคยมีชื่อว่าสามารถประสานการเจรจาได้กับพล.อ.ประวิตร มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันหากจะเปรียบเทียบกับการเข้าถึง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่คงต้องยอมรับว่า บิ๊กตู่ คงไม่เล่นเกมปรองดองในทางที่เดินไปถึงเรื่องราวว่าด้วยการนิรโทษกรรม อย่างแน่นอน !
การสร้างความปรองดอง ได้เดินหน้าเพียงไม่นาน เพราะยังเหลือเวลาอีกระยะเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่มการเมืองได้เข้าให้ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการสร้างความปรองดองฯ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า "กองทัพ" ไม่ควรเข้ามาทำหน้าที่เป็น "คนกลาง" แม้จะมีเสียงโจมตีว่าการปรองดองแทบจะไม่เกิดขึ้น ก่อนการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ในความเป็นจริงแล้ว มีความคืบหน้าที่กองทัพและ คสช. ต้องการให้ปรากฏสู่สายตา นั่นคือภาพที่ทุกพรรคการเมืองเดินทางไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อเสนอแนะ เพื่อแสดงความเห็น
ส่วนทุกข้อเสนอ จะได้รับการขานรับหรือสนองตอบจาก คสช.หรือไม่ อย่างไร ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่อง ที่ต้องเรียกว่า wait and see ไม่เว้นแม้แต่ "ความหวัง" ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการผลักดัน "นิรโทษกรรม"ให้กับทักษิณ จะเกิดขึ้นได้จริง หรือเป็นเพียง"คาถา" ที่สะกดให้พรรคเพื่อไทยยอมอยู่ในความสงบ โปรดรอคำตอบสุดท้ายที่ "บิ๊กตู่" !