รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
“เลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม เขต 5” แม้จะเป็นการเลือกตั้งซ่อมเพียง 1 เขต แต่ก็เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ตลอดจนมีนัยยะทางการเมืองแฝงอยู่มากมายในการแย่งชิง โดยเฉพาะประเด็นที่หลายฝ่ายมุ่งเป้าว่าเป็นหนึ่งในบทพิสูจน์คะแนนนิยมรัฐบาล พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา จากชาวบ้านร้านตลาดว่ายังได้รับความไว้วางใจหรือไม่? ตลอดจนเป็นการประลองกำลังเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมในอีก 3 เขต คือ ขอนแก่น เขต 7 กำแพงเพชร เขต 2 และสมุทรปราการ เขต 5 ดังนั้น คงไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงหากจะกล่าวว่าการเลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม เขต 5 และอีก 3 เขตที่เหลือ ถือเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเบื้องต้นว่าคนไทยให้คะแนนรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมากกว่ากัน...กันแน่!!
ปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งซ่อมมีความสำคัญอย่างมากสำหรับรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะจำนวนคะแนนเสียงของทั้ง “สองขั้ว” การเมืองมีความใกล้เคียงกันมาก ดังนั้น ทุกเก้าอี้ ส.ส. ในสภา จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจะต้องสู้ฟาดฟันกัน อย่างดุเดือด เพื่อให้แย่งชิงเก้าอี้ ส.ส.จากการเลือกตั้งซ่อมให้ได้มากที่สุด
ผลการเลือกตั้งซ่อมในยกแรกนั้น พบว่า นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนาชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 มีคะแนนนำ 37,675 คะแนน ทิ้งห่างอนาคตใหม่ 28,216 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 63.43 ผลการเลือกตั้งดังกล่าวนั้น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามเพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนเฉพาะผู้ที่สนใจติดตามข่าวการเมือง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,072 คน เกี่ยวกับ “ประชาชนคิดอย่างไร? กับ การเลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม” สรุปผลได้ ดังนี้
ประชาชนคิดอย่างไร? กับ การเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.นครปฐม พบว่า “คำตอบ” ที่ “ประชาชน” ตอบมากที่สุด ร้อยละ 49.63 คือ เป็นข่าวดัง เกมพลิก ผลไม่เป็นไปตามที่คนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
รองลงมา ได้แก่ ชัยชนะของพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นผลดีต่อฝ่ายรัฐบาล ทำให้มีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 32.25 และการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ย่อมมีผู้แพ้ ผู้ชนะ ร้อยละ 26.22
จากผลการเลือกตั้งสะท้อนให้เห็นอะไรไบ้าง? พบว่า “คำตอบ” ที่ “ประชาชน” ตอบมากที่สุด ร้อยละ 52.57 คือ สถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
รองลงมา ได้แก่ ประชาชน คือ ผู้มีสิทธิมีเสียง ต้องเคารพการตัดสินใจ ร้อยละ 39.40 และการเลือกตั้งครั้งนี้คนตัดสินใจเลือกที่ตัวบุคคลมากกว่า ร้อยละ 22.58
ประชาชนคิดว่าอนาคตของ “ฝ่ายรัฐบาล” จะเป็นอย่างไร? พบว่า “คำตอบ” ที่ “ประชาชน” ตอบมากที่สุด ร้อยละ 44.19 คือ เหมือนเดิม เพราะการดำเนินงานล่าช้า ไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลถูกคัดค้านต่อต้าน โดนเพ่งเล็งหลายเรื่อง ฯลฯ รองลงมา ได้แก่ แย่ลง ร้อยละ 36.33 เพราะยังแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนไม่ได้ การจัดสรรงบประมาณปี 63 มีปัญหา ไม่ชัดเจน ฯลฯ และดีขึ้น ร้อยละ 19.48 เพราะรัฐบาลยังมีเสียงข้างมาก มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองเต็มที่ มีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชน ฯลฯ
ประชาชนคิดว่าอนาคตของ “ฝ่ายค้าน” จะเป็นอย่างไร? พบว่า “คำตอบ” ที่ “ประชาชน” ตอบมากที่สุด ร้อยละ 54.26 คือ เหมือนเดิม เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านมีประสบการณ์ทางการเมืองมานาน มีหน้าที่หลักในการตรวจสอบและคานอำนาจกับรัฐบาล ฯลฯ
รองลงมา ได้แก่ ดีขึ้น ร้อยละ 29.52 เพราะ ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้เหมาะสม ปฏิบัติตามนโยบาย เป็นฝ่ายค้านที่ดี เร่งทำผลงานให้เป็นที่ยอมรับ ฯลฯ และแย่ลง ร้อยละ 16.22 เพราะอาจเป็นจุดเปลี่ยนหรือเป็นการส่งสัญญาณเตือนบางอย่าง การเมืองไทยร้อนแรง ฝ่ายค้านถูกบีบ ทำงานยากขึ้น ฯลฯ
ประชาชนคิดว่าอนาคตของ “พรรคอนาคตใหม่” จะเป็นอย่างไร? พบว่า “คำตอบ” ที่ “ประชาชน” ตอบมากที่สุด ร้อยละ 37.16 คือ เหมือนเดิม เพราะเป็นพรรคใหม่ไฟแรง มีอุดมการณ์และความมุ่งมั่น เป็นเรื่องปกติที่ถูกจับจ้องและโดนโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ
รองลงมา ได้แก่ ดีขึ้น ร้อยละ 32.51 เพราะจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้พรรคอนาคตใหม่มีความรอบคอบ ทำงานรัดกุมมากขึ้น ฯลฯ และแย่ลง ร้อยละ 30.33 เพราะเริ่มมีกระแสข่าวในทางลบ อาจมีความขัดแย้งภายในพรรค ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ฯลฯ
ที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ คือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.นครปฐม ซึ่งคงต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ และอีก 3 ครั้งต่อไปนั้น ส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยไม่น้อย ซึ่งแม้ว่าการเลือกตั้งซ่อมมากน้อยเพียงใด? สิ่งที่คาดหวังจากได้เห็น ก็คือ การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่สาดโคลน โจมตี ชนิดที่ไม่เอาด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้เอาด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา ชนิดที่เรียกได้ว่า “แพ้ไม่ได้ ต้องชนะลูกเดียว”
เพราะหากยังปล่อยให้การเมืองไทยยังอยู่ในสภาพเดิมๆ...บทสรุปสุดท้ายของการต่อสู้ ในการ “เลือกตั้งซ่อม” คงมีจุดจบแบบที่ผ่านผ่านมา ก็คือ เป็น “การเลือกตั้งและการต่อสู้ทางการเมือง” บนความพ่ายแพ้ของประชาชน…อีกจนได้..!!
เลือกตั้งหากมีปัญหายังแจกใบแดง...ใบเหลือง และยัง “เลือกตั้งซ่อม” ได้...
แต่ประเทศชาติหากปล่อยให้เกิดปัญหา...เกิดความผิดพลาดไปมากกว่านี้...ก็ไม่รู้ว่าจะ “ซ่อมประเทศได้” หรือไม่?...
อดห่วงไม่ได้จริงจริง!!