ทีมข่าวคิดลึก
แกนนำจากสองพรรคการเมืองทั้ง"ประชาธิปัตย์" และ "เพื่อไทย" ต่างมีมุมมองต่อการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ขององค์กรอิสระ ตลอดจนหน่วยงานราชการ ในทิศทางเดียวกัน ว่าเป็นความคุ้มทุน คุ้มค่า และเหมาะสมหรือไม่ กับนโยบายที่ "ผู้นำรัฐบาล" ได้เคยวางเอาไว้ก่อนหน้านี้และดูเหมือนว่า คำถาม เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต่อกรณีดังกล่าวยิ่งดังมากขึ้นทุกขณะ !
กระแสโจมตีการเดินทางไปดูงานขององค์กรอิสระและหน่วยงานต่างๆยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อพบว่าบางองค์กรหรือหน่วยงานบางแห่งก็ไม่ได้อยู่อื่นไกลหากแต่อยู่ "ใต้จมูก" ของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั่นเอง
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เคยสร้างภาพ ให้นโยบายไม่สนับสนุนการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ เนื่องจากสิ้นเปลืองงบประมาณ และได้กำชับหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจทุกองค์กร ให้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า แต่หน่วยงานใต้จมูกนายกฯ กลับมีข่าวในลักษณะนี้เสียเอง"อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ
และหน่วยงานที่อยู่ใต้จมูกที่ว่านี้แน่นอนว่าอนุสรณ์กำลังหมายถึง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกเพจเฟซบุ๊กปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทยได้เผยแพร่ภาพและการดูงานของภาครัฐ ไปดูงานตรวจราชการที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 12-15 ม.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ เอาจริงเอาจังและใส่ใจกับการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศของหน่วยงานราชการและองค์กรอิสระ พร้อมทั้งยกคำสั่งวันที่ 3 มี.ค. 2558 ให้งดเว้นการเดินทางไปต่างประเทศของข้าราชการทุกหน่วยเพื่อประหยัดงบประมาณ แต่เหตุใดกลับพบว่าในหลักสูตรพิเศษขององค์กรอิสระและหลักสูตรพิเศษที่หน่วยงานต่างๆ จัดอบรม ยังคงมีการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศ
นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เองในฐานะองค์กรจัดการเลือกตั้ง ยังกลายเป็นองค์กรที่ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบ กรณีที่ กกต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต. เดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ระหว่าง 28 ก.พ. ถึง 5 มี.ค.
อย่างไรก็ดีในความเป็นจริงแล้วย่อมไม่ได้มีเพียงหน่วยงานและองค์กรอิสระ ที่ปรากฏเป็นข่าวเท่านั้น ที่มีการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศ หากแต่ยังมีกระทรวงและหน่วยงานของรัฐที่ยังคงส่งเจ้าหน้าที่ไปดูงานที่ต่างประเทศอยู่เช่นเดิม
แน่นอนว่าการศึกษาดูงานในต่างประเทศ เพื่อศึกษาหาความรู้ แล้วนำกลับมาพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงเพิ่มเติมงานของแต่ละหน่วยงาน ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ แต่จะ "จำเป็น" มากน้อยแค่ไหน คุ้มค่า คุ้มทุนหรือไม่ ที่สุดแล้ว เจ้ากระทรวง ตลอดบิ๊กข้าราชการที่ลงนามอนุมัติให้มีการเดินทางไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ ย่อมรู้ดีว่าได้ใช้เงินภาษีของประชาชนไปในทางเช่นไร
แต่สำหรับรัฐบาล และ คสช. แล้วดูเหมือนว่านี่คือ "คำถาม" ที่ตอบได้ยาก เพราะการใช้เงินงบประมาณไปในทางที่มิชอบ เกิดการรั่วไหล ในวันนี้ ที่ไม่มี "นักการเมือง" เข้ามาบริหารจัดการหรือมีบทบาทเช่นนี้ คสช. จะอธิบายได้อย่างไร
ทั้งนี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงปล่อยให้หน่วยงาน กระทรวง องค์กรต่างๆ ที่อยู่ใต้จมูก ใช้เงินภาษีกันต่อไปภายใต้คำถามและข้อสงสัยของประชาชนเช่นนี้ ดูจะไม่เป็นการดีต่อ คสช. และรัฐบาลมากกว่าใครเพื่อน !