แม้กีฬาสีการเมืองในประเทศไทยจะอ่อนแรงไปบ้างแล้ว แต่สถานการณ์ความขัดแย้งยังคงดำรงอยู่ และดูเหมือนว่ากำลังก่อตัวขึ้นใหม่ ดังปรากฎในความพยายามสร้างสถานการณ์ต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางไปร่วมประชุม UNGAที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ในงาน Lunch Talk ที่จัดโดยเอเชียโซไซตี้ ก็มีความพยายามที่จะประท้วงเขา อย่างไรก็ตาม ในงานนี้ถือเป็นการเปิดใจของพล.อ.ประยุทธ์ โดยการกล่าวปาฐกถาหัวข้อ “การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนระหว่างประเทศ จากความแข็งแกร่งภายในสังคมไทย” โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจความว่า หลายคนบอกว่าประเทศไทยขัดแย้งสูง เป็นผู้ป่วยอาเซียนหรือไม่ ขอย้ำว่าใครจะมองเป็นเสือตัวที่เท่าไหร่ เขาไม่สนใจ แต่ผู้นำอาเซียนทุกประเทศสัญญากับเขาแล้วว่าจะเป็นเสือ 10 ตัวที่เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ไม่ทะเลาะกัน จูงมือไปด้วยกัน
ทั้งนี้ทุกประเทศมีปัญหาหมด เพียงแต่เป็นปัญหาภายใน ถามว่าประเทศไหนไม่เคยขัดแย้ง ก็ขัดแย้งกันหมดทั่วโลกแต่จะแก้ปัญหานี้ จะเดินหน้าประเทศต่ออย่างไร เขาเข้ามาเพื่อหยุดปัญหาเหล่านั้น หยุดความขัดแย้งไม่ให้บานปลายอีก
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า เป็นรัฐบาลมา 5 ปี ปีนี้เข้าปีที่ 6 เจอมาทุกปัญหา ก็รับฟังปัญหา นำกลไกต่าง ๆ ของเดิมมาปรับมาแก้ อ่านตำราศึกษา อ่านหนังสือ ไม่ได้ใช้วิธีการทางทหารที่เป็นวิชาการทางทหาร เขาทำอย่างเดียวคือทำงานด้วยความเสียสละ อดทน อดกลั้น จริงจัง
“เพราะวินัยทหารคือทำงานแล้วต้องสำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จอย่าไปทำ ทหารต้องสั่งคนไปรบ ส่งคนไปตาย หากยึดที่หมายไม่ได้ ก็ตายไปเลย นั่นคือทหารและผมก็สำเร็จทุกครั้งถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถ้าเราทำไม่ได้ เราทำไม่เก่งก็ตายไป นั่นคือความเสียสละ นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจผมเสมอมา ผมไม่เคยคิดถึงประโยชน์ตัวเอง ไม่คิดถึงความเสี่ยงของตัวเอง ครอบครัวเป็นห่วงผม แต่เขาก็ยอมเพราะสละผมไปแล้ว ครอบครัวก็สละผมให้กับประเทศชาติไปแล้ว แล้วผมจะไปเรียกร้องอะไรจากใคร แต่เขาเข้าใจผม”
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ใครสั่งศาลถือว่าไม่ใช่คนดี
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ นายกรัฐมนตนี ได้หันไปถามผู้บริหารเอเชียโซไซตี้ว่า สนับสนุนคนเหล่านี้หรือไม่ บางเรื่องไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีอาญา ยืนยันว่าเขาไม่เคยทำผิดกฎหมาย แม้ว่าจะเข้ามาลักษณะนี้ และไม่ได้อยากเข้ามา แต่เพราะไทยมีปัญหา ไม่อยากให้เกิดสงครามการเมืองจึงต้องเข้ามายุติปัญหา กฎหมายจะบังคับได้ ไม่ได้อยู่ที่ประชาชน เจ้าหน้าที่เป็นคนดูแลบริหารจัดการ แต่ต้องไม่ทุจริต
ทั้งนี้ทุกอย่างดีขึ้นหมดแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าที่ถือป้ายประท้วงเมื่อกี้ใคร ทั้งที่โรดแมปทำแล้ว เลือกตั้งทำแล้ว ขอยืนยันประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับ
“ใครจะว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย ผมเลือกตั้งได้อาทิตย์เดียว รัฐบาลสหรัฐเป็นประเทศแรก ๆ ที่ออกแถลงการณ์ยอมรับผลการเลือกตั้งของไทย แล้วลงลายมือชื่อด้วยลายมือของนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แล้วใครมาว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย หลายประเทศล้วนแต่มายินดีกับผม การทะเลาะกันเป็นเรื่องภายใน ซึ่งทุกประเทศมีกันทั้งนั้น เลือกตั้งมีปัญหา ทุกประเทศก็มีหมด แต่เราอย่าไปทำไปฟังในสิ่งที่ไม่ใช่ ที่บิดเบือน สื่อโซเชียลต่าง ๆ อย่าไปฟังมากนัก”
กระนั้น ถือเป็นครั้งแรก ที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ในต่างแดน สำหรับการเข้ามาโดยผ่านการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาล “ประยุทธ์2/1” อันจะส่งสัญญาณทั้งการเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศ